คราฟต์เบียร์ คืออะไร ? และดื่มยังไงให้อร่อย

คราฟต์เบียร์ คืออะไร ? และดื่มยังไงให้อร่อย เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคราฟต์เบียร์ (Craft Beer) กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเบียร์ชนิดนี้คืออะไร และมีรสชาติอร่อยสู้เบียร์ธรรมดาที่วางขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไปได้หรือไม่ ดังนั้น วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับคราฟต์เบียร์กันมากขึ้น และมาหาคำตอบกันว่าเบียร์ชนิดนี้นั้นมีวิธีดื่มอย่างไรให้คุณติดใจจนลืมรสชาติเบียร์ในท้องตลาดกันไปเลย

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ  10 อาหารบํารุงอสุจิ ทนทาน เห็นผลไว ไม่ต้องใช้ไวอากร้า

คราฟต์เบียร์คือเบียร์แบบไหน?

กล่าวแบบตรงไปตรงมา คราฟต์เบียร์ก็คือเบียร์ทำมือหรือเบียร์โฮมเมดที่ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการหมักเบียร์แบบอุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือ SME นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ คราฟต์เบียร์จึงให้รสชาติที่แตกต่างไปจากเบียร์ตลาดที่ส่วนใหญ่มักมีรสชาติไม่ต่างกัน อันเนื่องมาจากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเดียวกัน ขณะที่รสชาติของคราฟต์เบียร์นั้นจะมีความหลากหลายไปตามวัตถุดิบ กระบวนการหมัก ระยะเวลา และทักษะความชำนาญเฉพาะตัวของโรงเบียร์ผู้หมักซึ่งทำให้คราฟต์เบียร์แต่ละชนิดนั้นมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ทำให้หลายคนสนใจอยากลิ้มลอง เนื่องจากการหาคราฟต์เบียร์ดื่มนั้นก็ไม่แตกต่างจากการเสพงานศิลปะที่ต้องมีใจรักและดื่มด่ำกับการดื่มเบียร์เป็นพื้นฐานสำคัญ

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ  อาหารเสริมผู้ชาย ทั้ง 10 เพิ่มสมรรถภาพ เติมรักได้เต็มที่

ส่วนประกอบของคราฟต์เบียร์

โดยปกติแล้วเบียร์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญ 4 ประการได้แก่ ยีสต์ มอลต์ ฮอปส์ และน้ำสะอาด ซึ่งแต่ละอย่างก็มีเอกลักษณ์และบทบาทที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

1.ยีสต์ (Yeast)

  • ยีสต์เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับกระบวนการหมักเบียร์ เนื่องจากเป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีคือแอลกอฮอล์และก๊าซคอร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งปกติแล้ว ยีสต์ที่ใช้ในการหมักเบียร์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Top Ferment – Ale Yeast (ผิวหน้าเบียร์) และ Bottom Ferment – Lager Yeast (ด้านล่างเบียร์)

2.มอลต์

  • มอลต์เป็นธัญพืชที่เป็นที่มาของกลิ่นหอม สี และรสชาติของเบียร์ โดยคุณภาพและชนิดของมอลต์ที่นำมาใช้หมักเบียร์นั้นจะมีส่วนสำคัญต่อความอร่อยและหอมติดลิ้นของเบียร์ สำหรับ คราฟต์เบียร์นั้นการเลือกมอลต์หรือธัญพืชชนิดอื่นจะขึ้นอยู่กับความชำนาญและสไตล์การหมักเบียร์ของโรงเบียร์เป็นสำคัญ

3.ฮ็อปส์

  • ดอกอ็อกส์เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือกลิ่นหอมและรสชาติฝาดติดลิ้น ฮ็อปส์มีมากมายหลายสายพันธุ์ หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่ามีการใช้ฮ็อปส์มาเพิ่มกลิ่นหอมและเพิ่มอายุของเบียร์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และประโยชน์การใช้งานดังกล่าวก็ยังดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน

4.น้ำ

  • แน่นอนที่สุด สิ่งที่จะขาดไปจากกระบวนการหมักเบียร์ไม่ได้คือน้ำ เนื่องจากส่วนประกอบส่วนใหญ่ของเบียร์ก็คือน้ำ อย่างไรก็ตาม การเลือกน้ำมาใช้สำหรับการหมักเบียร์นั้นมีความสำคัญมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะปริมาณแร่ธาตุหรือรสชาติของน้ำที่นำมาใช้สำหรับการหมักเบียร์นั้นส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของเบียร์ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ นักหมักเบียร์มืออาชีพจึงค่อนข้างใส่ใจกับการเลือกน้ำเป็นอย่างมาก

สำหรับคราฟต์เบียร์นั้น โรงหมักอาจจะมีกระบวนการหมักที่มีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวมากกว่าการใช้ส่วนประกอบหลักทั้ง 4 ประการ ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์ให้กับคราฟต์เบียร์ เหตุนี้เองที่ทำให้รสชาติและกลิ่นของคราฟต์เบียร์มีความพิเศษมากกว่าเบียร์ตลาดทั่วไป เพราะการดื่มคราฟต์เบียร์เป็นการเสพเรื่องราวและที่มา เช่นเดียวกับรสชาติของเบียร์ในขณะเดียวกัน

ความแตกต่างของคราฟต์เบียร์กับเบียร์ทั่วไป

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างคราฟต์เบียร์กับเบียร์ตลาด คือกระบวนการหมักนั่นเอง เนื่องจากเบียร์ตลาดทั่วไปส่วนใหญ่ผลิตในโรงงานที่มีการควบคุมมาตรฐานการผลิตอย่างเข้มงวด เพื่อให้เบียร์ออกมามีรสชาติเดียวกัน ขณะที่คราฟต์เบียร์นั้นจะมีการใช้เทคนิคและสไตล์ในการผลิตที่ค่อนข้างมีแบบฉบับเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัตถุดิบ การใส่ส่วนผสมพิเศษ ระยะเวลาในการหมัก ไปจนถึงความพิถีพิถันในการหมักไม่ต่างจากการสร้างสรรค์งานศิลปะเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการแบ่งโรงเบียร์คราฟต์ออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ โรงเบียร์เล็ก (small) สามารถผลิตคราฟต์เบียร์ได้ไม่เกิน 700 ล้านลิตร/ปี โรงเบียร์อิสระ (independent) หรือโรงเบียร์อินดี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนายทุนผลิตเบียร์ และทำคราฟต์เบียร์ไว้สำหรับขายในปริมาณจำกัดเท่านั้น และโรงเบียร์แบบดั้งเดิม (traditional) ซึ่งเป็นโรงเบียร์ที่มีการหมักเบียร์แบบเฉพาะมาอย่างเนิ่นนาน พบได้ในต่างประเทศที่นิยมดื่มเบียร์หมักเองเป็นจำนวนมาก

ดื่มคราฟต์เบียร์ยังไงให้อร่อย

การดื่มคราฟต์เบียร์นั้นไม่ได้ยากเย็นแต่อย่างใด คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องคราฟต์เบียร์หรือมีพิธีรีตองมากเหมือนกับการดื่มไวน์ เพียงแค่ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ ที่มา และกระบวนการหมักจะทำให้การดื่มคราฟต์เบียร์ของคุณมีความสนุกสนานและเอร็ดอร่อยมากยิ่งขึ้น เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจดื่มเบียร์เพื่อให้เมาหรือมีความสนุกเฮฮาเท่านั้น แต่เป็นการดื่มเพื่อเสพคุณภาพของวัตถุดิบ เรื่องราวที่เบียร์ดังกล่าวได้นำมาบอกเล่าแก่คุณผ่านน้ำสีอำพัน เพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอที่คุณจะแวะเวียนเข้าไปลิ้มลองรสชาติของคราฟต์เบียร์ที่มีความแตกต่างออกไปในแต่ละจังหวัดของประเทศไทยแล้ว

คราฟต์เบียร์นั้นจัดเป็นเครื่องดื่มที่มีความเฉพาะตัวไม่แพ้กาแฟคราฟต์หรืออาหารระดับ Fine dining เนื่องจากการดื่มคราฟท์เบียร์นั้นเป็นการดื่มด่ำรสชาติของวัตถุดิบและกระบวนการหมักที่มีความเฉพาะตัว ทำให้รสชาติและกลิ่นของคราฟต์เบียร์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งช่วยเพิ่มมิติใหม่ในการดื่มเบียร์เพื่อการสังสรรค์และพักผ่อนได้เป็นอย่างดี