หากจะพูดถึงการดูแลตัวเอง ก็ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันนี้คงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้คนนั้นหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้กันมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว นั่นก็มาจากการที่เรื่องของภาพลักษณ์ที่ดีกลายเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสังคมไปแล้วนั่นเอง แน่นอนว่าในขณะนี้มีวิธีการดูแลตัวเองให้เลือกร้อยแปดพันเก้าวิธี แต่ละวิธีก็แตกต่างกันออกไป รวมถึงเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้ด้วย การดูแลตัวเองด้วยคอลลาเจนก็นับว่าเป็นวิธีการที่ผู้คนไม่น้อยเลยเลือกใช้กัน จนนำมาสู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้านคอลลาเจนในท้องตลาดหลากหลายแบรนด์ แล้วรู้หรือไม่ว่า คอลลาเจน ทํามาจากอะไร มีแหล่งที่มาจากไหน เลือกคอลลาเจนแบบไหนดี และกระบวนการผลิตเป็นอย่างไร มาหาคำตอบกัน


คอลลาเจน ทํามาจากอะไร แล้วมีแหล่งที่มาจากไหนบ้าง

คอลลาเจน ทํามาจากอะไร แล้วมีแหล่งที่มาจากไหนบ้าง

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของโปรตีนที่มีเส้นใยภายนอกเซลล์ โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถพบได้มากที่สุดในร่างกายคน และสัตว์ สำหรับคอลลาเจนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายมาก ๆ เนื่องจากว่าเปรียบเสมือนกาวที่ใช้ยึดโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ การที่คอลลาเจนขึ้นชื่อว่าเป็นกาวก็เพราะว่า ในสมัยก่อนมีการทำกาวจากหนัง และเอ็นม้าที่นำมาเคี่ยวจนกลายเป็นกาว ซึ่งการใช้กาวในลักษณ์นี้ได้มีหลักฐานค้นพบว่าใช้กันมาอย่างยาวนานถึง 8,000 ปีแล้ว ทั้งนี้กาวที่ได้จะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเชือก และตะกร้าสาน นั่นก็เพื่อที่จะช่วยให้มีความแข็งแรงมากขึ้น

ปัจจุบันนี้มีการวิจัยออกมาแล้วว่าคอลลาเจนนั้นอาจจะมีมากถึง 1,000 ชนิดเลย สำหรับคอลลาเจนที่ผ่านการพิสูจน์ทราบแล้วก็มีอยู่ด้วยกัน 15 ชนิด แต่คอลลาเจนที่สามารถพบได้บ่อย ๆ ได้แก่ Collagen Type I เป็นคอลลาเจนชนิดหลักของผิวหนัง และกระดูก อีกทั้งยังเป็นคอลลาเจนที่สามารถพบได้มากที่สุดในร่างกายด้วย, Collagen Type II เป็นคอลลาเจนที่มักจะพบมากในกระดูกอ่อน, Collagen Type III เป็นคอลลาเจนที่จะพบได้มากในส่วนของผิวหนัง อวัยวะภายใน และหลอดเลือด และสุดท้ายคือ  Collagen Type V เป็นคอลลาเจนที่พบได้บ่อยอยู่ที่ผิวด้านนอก และบุผิวที่เป็นโพรง

สำหรับคอลลาเจนก็เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ และร่างกายก็จะมีการสร้างไปตลอดชีวิต แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นก็อาจจะทำให้ร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนในปริมาณที่น้อยลง จึงจำเป็นที่จะต้องหาคอลลาเจนจากแหล่งอื่นมาทดแทน และจะต้องมีการป้องกันการที่คอลลาเจนในร่างกายจะถูกทำลายไปด้วย เช่น การสูบบุหรี่, การสัมผัสกับรังสี UV มากเกินไป, การกินอาหารที่ไม่ดีพอ และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจน และคอลลาเจนที่มีก็จะถูกทำลายไปได้ง่าย ๆ เลยนั่นเอง

นอกจากนี้ คอลลาเจนยังสามารถพบได้จากอาหาร ต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ และในสัตว์ เช่น เห็ด, ถั่วเหลือง, ตับ, สาหร่ายทะเล, ปลาทะเลน้ำลึก, แตงกวา, เอ็นหมู, เอ็นวัว, เอ็นไก่, แก้วมังกร, แอปเปิล, สัมโอ ฯลฯ โดยส่วนใหญ่แล้วคอลลาเจนมักจะพบได้มากในกระดูกหมู, ไก่, ปลา และตาปลา 


กระบวนการสกัดคอลลาเจน ทำกันอย่างไร

กระบวนการสกัดคอลลาเจน ทำกันอย่างไร

ก่อนหน้านี้ก็คงได้ทราบกันไปแล้วว่า คอลลาเจน ทํามาจากสิ่งไหนบ้าง และมีแหล่งมีแหล่งที่มาอย่างไร ในส่วนนี้ก็อยากจะให้ทำความเข้าใจกับเรื่องของการสกัดคอลลาเจนกันบ้าง โดยการสกัดคอลลาเจนจะเป็นการสกัดมาจากสัตว์น้ำ ที่จะมีขั้นตอนหลัก ๆ อยู่ 2 ขั้นตอนด้วยกัน คือ การทำพรีทรีตเมนท์ และการสกัดคอลลาเจน ในขั้นตอนของการสกัดจะต้องนำเอาวัตถุดิบที่ได้มาผ่านการทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน พร้อมกับการลดขนาดวัตถุดิบ ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้สามารถขจัดสิ่งแปลกปลอมที่ติดมากับวัตถุดิบให้หลุดออกไปได้ และยังเป็นการช่วยให้การสกัดสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ทำความสะอาด และลดขนาดของวัตถุดิบแล้ว ต่อมาจะเป็นการพรีทรีตเมนท์เพื่อกำจัดองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คอลลาเจนออกไปให้หมด โดยวิธีการนี้มักจะได้รับความนิยมมาก ๆ ในการใช้กำจัดโปรตีนที่ไม่ใช่คอลลาเจน จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการสกัดคอลลาเจนที่จะแบ่งออกเป็น 4 วิธีด้วยกัน คือ การสกัดคอลลาเจนด้วยสารละลายเกลือ, การสกัดคอลลาเจนด้วยสารละลายกรด, การสกัดคอลลาเจนด้วยเอนไซม์ และการสกัดคอลลาเจนด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์ ทั้งนี้วิธีการที่นำมาใช้สกัดคอลลาเจนก็จะส่งผลต่อปริมาณคอลลาเจน และคุณสมบัติที่จะได้รับของคอลลาเจน 

เมื่อผ่านกระบวนการสกัดคอลลาเจนเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็จะทำการตกตะกอนคอลลาเจนโดยใช้สารละลายเกลือแบบเข้มข้น แล้วนำไปเหวี่ยงเพื่อแยกตะกอนคอลลาเจนออกด้วยความเร็ว 10,000-20,000 รอบ/นาที และใช้อุณหภูมิที่ 4 องศาเซลเซียส การทำขั้นตอนนี้ก็จะทำไปทั้งหมดเป็นเวลา 60 นาที หลังจากนั้นก็จะได้เป็นคอลลาเจนที่บริสุทธิ์ออกมาจากการทำไดอะไลซีส สุดท้ายจะทำการนำเอาคอลลาเจนที่ได้ไปทำให้แห้งก็เป็นอันจบขั้นตอนของการสกัดคอลลาเจน


คอลลาเจนมีประโยชน์และโทษอย่างไรบ้าง

คอลลาเจนมีประโยชน์และโทษอย่างไรบ้าง

ในส่วนนี้จะเป็นเรื่องของการที่จะช่วยทำให้ทราบว่าคอลลาเจนช่วยอะไร มีประโยชน์อย่างไร แล้วมีโทษอะไรบ้างที่ต้องระวัง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นต้องรู้เอาไว้ก่อนการเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายของตัวเอง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และช่วยให้เสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ถูกจุด ว่าคอลลาเจนจะสามารถช่วยให้อะไรได้บ้าง สำหรับประโยชน์ และโทษของคอลลาเจนก็มีดังต่อไปนี้

ประโยชน์ของคอลลาเจน

ประโยชน์ของคอลลาเจน

  • คอลลาเจนเป็นสิ่งที่มีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น กระดูก, กระดูกอ่อน, เส้นเอ็น, ผิวหนัง, ข้อกระดูก และหลอดเลือด
  • คอลลาเจนมีส่วนในการช่วยป้องกันอวัยวะของร่างกาย และเป็นสิ่งที่เป็นตัวเชื่อมโครงสร้างอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเอาไว้ด้วยกัน
  • คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ เป็นสิ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อ และช่วยในเรื่องของการทำให้ผิวเรียบเนียน กระชับ แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน และชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย
  • คอลลาเจนมักจะอยู่คู่กันกับโปรตีนอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ อีลาสติน ที่เมื่อจับคู่กันแล้วจะช่วยทำให้ผิวเต่งตึง และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงยังสามารถช่วยทำให้ผิวไม่เกิดริ้วรอยขึ้นนั่นเอง
  • คอลลาเจนเป็นสิ่งที่สามารถช่วยในเรื่องของการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และยังช่วยลดระยะเวลาในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อด้วย อีกทั้งคอลลาเจนก็ยังสามารถช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมข้อต่อที่สึกหรอได้
  • คอลลาเจนเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากว่าคอลลาเจนที่สกัดมาจากสัตว์น้ำ จะมีความสามารถในการนำมาทำเป็นวัสดุทางการแพทย์ได้ เช่น การทำวัสดุทดแทนกระดูก, วัสดุทางจักษุวิทยา และแผ่นปิดที่ใช้ในการรักษาแผล
  • คอลลาเจนสามารถทำหน้าที่ในการปลดปล่อยตัวยาได้ โดยจะเป็นการช่วยปลดปล่อยตัวยาให้ออกมาทีละน้อย เพื่อเป็นการช่วยทำให้ระดับยาในเลือดมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยเพิ่มระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของยาด้วย ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องกินยา หรือใช้ยาบ่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความถี่ในการให้ยา

โทษของคอลลาเจน

โทษของคอลลาเจน

  • สำหรับโทษของคอลลาเจนก็จะสามารถพบได้บ่อยในคอลลาเจนที่มาในรูปแบบของอาหารเสริม โดยการกินอาหารเสริมคอลลาเจนอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่มาจากแหล่งผลิตคอลลาเจน เช่น การที่มีเชื้อโรคในวัว, หมู หรือปลา 
  • คอลลาเจนเป็นสิ่งที่ทำให้กินแล้วเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิต้านทานน้อย หรือผู้ที่มีการเลือกแหล่งคอลลาเจนที่ไม่ได้คุณภาพมา

ข้อปฏิบัติในการกินคอลลาเจน

ข้อปฏิบัติในการกินคอลลาเจน

เมื่อได้ทราบแล้วว่าคอลลาเจนช่วยอะไรได้บ้าง มีประโยชน์อย่างไร และมีโทษอะไรบ้าง ส่วนต่อมาที่ต้องรู้ในการกินคอลลาเจนเลย ก็คือ เรื่องของข้อปฏิบัติ หรือคำแนะนำที่ควรทำตาม เพื่อเป็นการช่วยให้ไม่เกิดอันตราย และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมา รวมถึงยังช่วยให้กินคอลลาเจนแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งข้อปฏิบัติในการกินคอลลาเจนมีดังนี้

  • การกินคอลลาเจนควรกินในปริมาณที่พอดี โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เผยว่า การกินคอลลาเจนให้พอดีต่อวัน ควรจะกินที่ปริมาณเพียงแค่ 2,500-5,000 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น เพราะเป็นปริมาณคอลลาเจนที่ถือว่าเพียงพอต่อการดูแลร่างกายให้แข็งแรง และการดูแลผิวพรรณให้สวยงามได้แล้วนั่นเอง
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนที่เลือกมากิน จะต้องผ่านการรับรองมาจาก อย. เรียบร้อยแล้วเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของคุณภาพคอลลาเจน
  • การกินคอลลาเจนให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรจะกินในขณะที่ท้องยังว่างอยู่ โดยควรกินก่อนอาหารเช้า 30 นาที ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • เมื่อกินคอลลาเจนแล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เนื่องจากว่าคอลลาเจนต้องการสารละลาย เพื่อช่วยให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง หากว่าร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยมากเกินไป ก็จะเป็นการทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเอาคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ได้
  • การกินคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซีถือว่าเป็นวิธีการที่ดีมาก เพราะวิตามินซีเป็นสิ่งที่ช่วยให้การดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งวิตามินซียังเป็นสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นเองได้ด้วย ดังนั้นการกินคอลลาเจนกับวิตามินซีเป็นวิธีการที่ควรทำ

ทั้งหมดที่ได้กล่าวไปนี้ ก็เป็นสิ่งที่คงจะช่วยให้ได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้นแล้วว่า จริง ๆ แล้วคอลลาเจนทำมาจากอะไร มีที่มาอย่างไร และกระบวนการผลิต หรือการสกัดคอลลาเจนมีการทำอย่างไรบ้าง นอกจากนี้แล้วก็ยังช่วยให้ได้ทราบถึงเรื่องของประโยชน์ โทษ และ ข้อควรรู้ก่อนกินคอลลาเจน ด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก และเหล่าผู้คนที่สนใจอยากที่จะเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายของตัวเองก็จำเป็นที่จะต้องรู้เป็นข้อมูลเก็บเอาไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของคอลลาเจนมากขึ้นก่อนการกินคอลลาเจนบำรุงร่างกายนั่นเอง


อ้างอิง