ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคนี้ไม่ว่าใครก็หันมาดูแลตัวเองด้วยกันทั้งนั้น เพราะการดูแลตัวเองนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีได้แล้ว ก็ยังส่งผลต่อสุขภาพของใจที่มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วย แน่นอนว่าการดูแลตัวเองก็คงจะต้องให้ความใส่ใจในทุก ๆ เรื่อง เพื่อให้ภาพรวมออกมาแล้วดูดีมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม อีกส่วนที่ผู้คนให้ความสนใจในการดูแลตัวเองมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น การดูแลผิว ผม และเล็บ ซึ่งการดูแลนั้นก็สามารถทำได้จากหลากหลายวิธีการ หนึ่งในนั้นก็คือ การดูแลตัวเองด้วยการทาน คอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บ นั่นเอง แล้วคอลลาเจนสามารถช่วยดูแลผิว ผม และเล็บให้ได้อย่างไรบ้าง ควรเลือก ซื้อคอลลาเจนแบบไหนดี มาทำความเข้าใจกันก่อนเริ่มทานดีกว่า


คอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บ ช่วยดูแลได้อย่างไรบ้าง

คอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บ ช่วยดูแลได้อย่างไรบ้าง

เมื่อพูดถึงอาหารเสริมที่จะช่วยดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ คนก็คงจะนึกไปถึงการทานคอลลาเจนแน่นอน เพราะคอลลาเจนมีจุดเด่นที่คนทั่วโลกยอมรับอยู่ นั่นก็คือ เรื่องของการที่สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และยังช่วยให้มีการผลัดเซลล์เก่าออกไปแล้วมีเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น จากการทดสอบกับผู้หญิงวัยตั้งแต่ 35-55 ปี พบว่ากลุ่มหนึ่งที่มีการทานคอลลาเจนเป็นประจำ มีผิวพรรณที่ยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดผิดกับอีกกลุ่มที่มีการให้รับวิตามินชนิดอื่น ๆ แทน

นอกจากคอลลาเจนจะสามารถช่วยในเรื่องของการดูแลผิวพรรณได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยดูแลเส้นผมได้ด้วย โดยส่วนประกอบหลักของผม ก็คือ เคราติน ที่ร่างกายของมนุษย์สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้จากกรดอะมิโน และสำหรับกรดอะมิโนนั้นก็เป็นสิ่งที่สามารถพบได้ในคอลลาเจน ดังนั้นเมื่อทานคอลลาเจนเข้าไป ก็จะช่วยให้ร่างกายนำเอากรดอะมิโนที่ได้จากคอลลาเจนไปใช้ในการสร้างโปรตีนเพื่อบำรุงเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งในผิวหนังแท้และผิวหนังชั้นกลางก็จะกลายเป็นตำแหน่งที่ทำให้รากผมฝังตัวได้อย่างดีมากขึ้น เนื่องจากว่าชั้นผิวหนังมีความแข็งแรงมากกว่าเดิม จึงสามารถช่วยป้องกันปัญหาผมหลุดร่วงเอาไว้ได้

มาถึงในส่วนของการดูแลเล็บกันบ้างที่คอลลาเจนสามารถทำได้เช่นกัน ในเล็บจะมีส่วนประกอบที่สำคัญเช่นเดียวกันกับผม นั่นก็คือ เคราติน โดยหากว่าใครที่มีสุขภาพเล็บดีก็จะทำให้เล็บมีสีขาวใสอมชมพู และมีเนื้อเล็บเรียบ เป็นเงา แต่ในทางกลับกันถ้าหากว่าร่างกายเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาก็จะส่งผลทำให้การเติบโตของเล็บนั้นช้าลง หรือหยุดเติบโต ดังนั้นการทานคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเล็บได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้เล็บมีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี ไม่เปราะหรือว่าฉีกขาดง่าย นั่นก็เพราะว่าคอลลาเจนเป็นสิ่งที่อุดมไปด้วยโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลักของเนื้อเยื่อนั่นเอง และทั้งหมดนี้ก็คงจะช่วยให้เข้าใจกันแล้วว่า คอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บ สามารถช่วยดูแลอะไรได้บ้าง


การทานคอลลาเจนสำคัญอย่างไร และควรทานตอนไหนดีที่สุด

การทานคอลลาเจนสำคัญอย่างไร และควรทานตอนไหนดีที่สุด

เมื่อได้ทราบกันแล้วถึงเรื่องของคอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บว่าสามารถดูแลได้อย่างไรบ้าง ในส่วนนี้ก็อยากจะให้ได้ทำความเข้าใจถึงเรื่องความสำคัญของคอลลาเจนด้วย ว่าทำไมถึงต้องทานแล้วควรทานตอนไหนถึงจะดีมากที่สุด โดยการที่จะต้องทานคอลลาเจนนั่นก็มาจากการที่ โดยปกติแล้วร่างกายของมนุษย์จะสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ และในร่างกายก็จะมีคอลลาเจนอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผิวหนัง, เล็บ, ผม, ข้อกระดูก, กระดูกอ่อน, เส้นเอ็น และหลอดเลือด ซึ่งคอลลาเจนจะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับอวัยวะต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร่างกายของมนุษย์จะสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นเองได้ แต่เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ก็จะส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจนที่ร่างกายจะสามารถทำได้น้อยลง เมื่อมีคอลลาเจนในร่างกายน้อยเกินไป ก็จะส่งผลต่าง ๆ ตามมาได้ ทั้งการที่ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอยตามมาได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้านเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วการที่จะสามารถดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนที่เพียงพอ จึงต้องพึงวิธีการทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปนั่นเอง เพื่อเป็นการช่วยบำรุงสิ่งที่ร่างกายขาดไป

ในการทานคอลลาเจนนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าจะทานตอนไหนก็ได้ เพราะมีช่วงเวลาที่ดีในการทานอยู่ โดยมีนักโภชนาการหลายคนได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า การทานคอลลาเจนที่ดีและช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีมากที่สุดก็คือ การทานคอลลาเจนในขณะที่ท้องยังว่างอยู่ เนื่องจากว่าตอนที่ท้องยังว่างจะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งช่วงเวลาที่ท้องว่างส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงหลังจากตื่นนอน กับช่วงก่อนนอนนั่นเอง ทั้งนี้หากว่าไม่สะดวกในการทานคอลลาเจนตามเวลาที่กล่าวมา ก็สามารถเลือกช่วงเวลาที่อยากจะทานเองได้เลย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันออกไป


วิธีเลือกซื้อคอลลาเจนให้เหมาะกับตัวเอง 

วิธีเลือกซื้อคอลลาเจนให้เหมาะกับตัวเอง 

คงจะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันนี้มีคอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บ รวมถึงคอลลาเจนแบบอื่น ๆ ออกมาวางขายในตลาดเต็มไปหมด แต่ละแบรนด์ที่ทำออกมาก็มีเอกลักษณ์ และมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เมื่อมีแบรนด์คอลลาเจนให้เลือกเยอะมาก ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งวิธีการเลือกซื้อก็ไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่ทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. ก่อนซื้อต้องไม่ลืมดูแหล่งที่มา และการรับรองตามมาตรฐาน

สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องใส่ใจในการเลือกซื้อคอลลาเจนเลย คือ การเลือกดูแหล่งที่มาของส่วนผสมในคอลลาเจนก่อน ว่าเป็นคอลลาเจนที่ผ่านการสกัดมาจากสิ่งใด โดยคอลลาเจนที่ดีที่สุดมักจะสกัดมาจากปลาทะเล หากได้รู้ว่าคอลลาเจนนั้นสกัดมาจากอะไรแล้ว ก็จะช่วยให้รู้ได้ทันทีว่าทานเข้าไปแล้วจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยเฉพาะหากคอลลาเจนสกัดมาจากปลาทะเล ก็หมายความว่าผู้ที่แพ้อาหารทะเลก็ไม่สามารถที่จะทานได้ นอกจากนั้นแล้วก็จะต้องดูในเรื่องของการรับรองมาตรฐานด้วย เพราะสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยจะต้องผ่านวิจัย และรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานแล้วเท่านั้น

2. ควรเลือกคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของวิตามินซี

การซื้อคอลลาเจนไม่เพียงแค่จะต้องดูแหล่งที่มาของคอลลาเจน หรือการรับรองตามมาตรฐานเท่านั้น หากว่าอยากที่จะให้ทานคอลลาเจนแล้วเห็นผลดี ก็แนะนำว่าให้เลือกซื้อคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของวิตามินซีด้วย เนื่องจากว่าวิตามินซีเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ทานแล้วเห็นผลลัพธ์ได้ไวมากขึ้นด้วย ที่สำคัญเมื่อมีวิตามินซีก็ทำให้การทานคอลลาเจนเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่าเดิมแน่นอน

3. เลือกจากรสชาติของคอลลาเจน

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าคอลลาเจนส่วนใหญ่ก็จะสกัดมาจากปลาทะเล จึงทำให้รสชาติคอลลาเจนไม่ได้ดีมากนัก อาจจะมีกินที่เฉพาะตัวและมีรสชาติที่ค่อนข้างคาว จนทำให้หลายคนทานไม่ได้เลยก็มี แนะนำว่าหากเป็นมือใหม่ที่เพิ่งทานคอลลาเจน ก็ควรเลือกซื้อคอลลาเจนที่ผสมผลไม้เข้าไปด้วยดีกว่า เพราะสามารถทำให้ทานคอลลาเจนได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากกลิ่นและรสชาติของผลไม้จะไปช่วยกลบความคาวคอลลาเจนได้นั่นเอง

4. อย่าลืมเช็กวันผลิตและวันหมดอายุด้วย

อีกสิ่งที่สำคัญและไม่ควรลืมอย่างเด็ดขาดในการเลือกซื้อคอลลาเจน ก็คือ การเช็กวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุของสินค้า เนื่องจากว่าอาหารเสริมทุกประเภทจะมีประสิทธิภาพและคุณภาพที่เสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงสำคัญมาก ๆ ที่จะต้องซื้อคอลลาเจนที่ยังไม่หมดอายุ หรือไม่ได้ใกล้จะหมดอายุ เพราะ คอลลาเจนที่หมดอายุ หากซื้อมาทานแล้วก็จะทำให้ได้รับประสิทธิภาพของคอลลาเจนได้แบบไม่เต็มที่ อีกทั้งยังอาจจะส่งผลกระทบ หรือทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้เลย 


อยากเห็นผลไวควรทานคอลลาเจนอย่างไร

อยากเห็นผลไวควรทานคอลลาเจนอย่างไร

ก่อนหน้านี้ก็คงจะช่วยทำให้เข้าใจได้มากขึ้นแล้วว่า การเลือกซื้อคอลลาเจนบํารุงผิว ผม เล็บให้เหมาะสมกับตัวเองนั้น ควรเลือกอย่างไรบ้าง เมื่อเข้าใจแล้วก็อยากจะให้ได้ทราบกันด้วยว่า หากต้องการทานคอลลาเจนให้เห็นผลลัพธ์ดีและไวมากขึ้น ควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง คอลลาเจนกินตอนไหนถึงดีสุด ซึ่งวิธีการก็มีดังต่อไปนี้

  • ทานคอลลาเจนหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนเข้านอน เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่ท้องว่าง โดยเมื่อท้องว่างจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • เมื่อทานคอลลาเจนแล้วจะต้องดื่มน้ำตามเยอะ ๆ เนื่องจากว่าคอลลาเจนเป็นสารที่ต้องการสารละลายเข้ามาช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นเมื่อทานคอลลาเจนแล้ว ก็ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีมากขึ้น แต่ทั้งนี้หากว่าดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้
  • ทานคอลลาเจนเป็นประจำและสม่ำเสมอ การทานคอลลาเจนจะต้องทานต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้เต็มที่มากที่สุด หากว่าทานอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างแน่นอน
  • ทานคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสม ในการทานคอลลาเจนควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ก็ยังเป็นการช่วยให้ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมาด้วย โดยปริมาณคอลลาเจนที่เหมาะสมในการทาน 1 วัน ก็คือ 5,000 – 7,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ควรทานเกิน 10,000 มิลลิกรัม
  • เลือกทานคอลลาเจนแบบผงดีกว่าแบบเม็ด เนื่องจากว่าคอลลาเจนชนิดผงจะสามารถละลายได้เป็นอย่างดีมากกว่า และสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าแบบเม็ด อีกทั้งที่สำคัญคอลลาเจนแบบผงยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วมากกว่าคอลลาเจนแบบเม็ดด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คงจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ได้เข้าใจกันแล้วว่า การทานคอลลาเจนสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณ ผม และเล็บได้อย่างไรบ้าง อีกทั้งในการทานคอลลาเจนควรทานตอนไหนถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พร้อมกันนี้ยังมีเคล็ดลับในการเลือกซื้อคอลลาเจนให้เหมาะสมกับตัวเอง และวิธีการทานคอลลาเจนให้เห็นผลไวมาฝากกันด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้กับการทานคอลลาเจนตามแบบฉบับของแต่ละคนได้เลย


อ้างอิง