วิธีกินคอลลาเจน ในชีวิตประจำวัน กินอย่างไรให้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

by | Jun 6, 2023 | BEAUTE

คงจะเป็นทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องหันมาให้ความสนใจกับเรื่องของการดูแลตัวเองกันทั้งนั้น เพราะสุขภาพที่ดีจะส่งผลทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูดีไปด้วยเช่นกัน ด้วยยุคสมัยที่ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องรูปลักษณ์มากขึ้นแบบนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดูแลตัวเองได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองให้ดูดี หรือมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นได้นั้น ก็สามารถทำได้จากหลากหลายวิธีเลย การกินคอลลาเจนก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้คนมากมายเลือกใช้กันด้วย แล้ว วิธีกินคอลลาเจน ที่ถูกต้อง ควรกินอย่างไร เลือกคอลลาเจนแบบไหนดี และการกินที่ถูกต้องนั้นดีอย่างไร มาทำความเข้าใจกัน

เนื้อหาบทความ ซ่อน
1) วิธีกินคอลลาเจน ให้ถูกต้องสำคัญอย่างไร
2) เผยวิธีกินคอลลาเจนให้ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
2.1) 1. ควรกินคอลลาเจนในตอนที่ท้องว่าง หรือก่อนเข้านอน
2.2) 2. เลือกชนิดของคอลลาเจนให้เหมาะสมกับความต้องการ
2.3) 3. ดื่มน้ำให้มาก ๆ และควรกินคอลลาเจนกับวิตามินซี
2.4) 4. กินคอลลาเจนแบบผงดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด
2.5) 5. กินคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสมและพอดีต่อร่างกาย
2.6) 6. อยากเห็นผลดีต้องกินคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
2.7) 7. มองหาคอลลาเจนจากอาหาร
2.8) 8. กินอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
3) รู้หรือไม่? เลือกกินคอลลาเจนไม่ดี มีผลข้างเคียงอย่างไร

วิธีกินคอลลาเจน ให้ถูกต้องสำคัญอย่างไร

วิธีกินคอลลาเจน ให้ถูกต้องสำคัญอย่างไร

อย่างที่ได้กล่าวแล้วว่าการกินคอลลาเจนเป็นหนึ่งในวิธีที่ผู้คนในปัจจุบันนี้เลือกที่จะนำมาใช้ในการดูแลตัวเองกันมากขึ้น จนทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดเต็มไปหมด แน่นอนว่าการกินคอลลาเจนเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย และสุขภาพมาก ๆ โดยเฉพาะการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

แต่อย่างไรก็ตาม การกินเฉย ๆ อาจไม่พอ แต่ควรจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของ วิธีกินคอลลาเจน ที่ถูกต้องด้วย นั่นก็เพื่อเป็นการช่วยให้กินแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี เห็นผลไว และช่วยให้คอลลาเจนสามารถทำงานได้อย่างประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยนั่นเอง ดีต่อร่างกาย บำรุงได้ทั้งกระดูก ผิว ผม และเล็บ แบบครบจบ

เผยวิธีกินคอลลาเจนให้ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า

เผยวิธีกินคอลลาเจนให้ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า

การกินคอลลาเจนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในหลากหลายด้าน และเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายมาก ในการกินให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเห็นผลได้อย่างชัดเจน ก็ต้องอาศัยวิธีกินคอลลาเจนที่ถูกต้องเข้ามาช่วยด้วย สำหรับการกินคอลลาเจนให้ถูกต้องนั้นก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้

1. ควรกินคอลลาเจนในตอนที่ท้องว่าง หรือก่อนเข้านอน

เหตุผลที่ต้องกินคอลลาเจนในตอนที่ท้องว่าง หรือก่อนเข้านอนนั้น ก็เพราะว่าในช่วงที่ท้องว่างอยู่เมื่อมีการกินคอลลาเจนเข้าไป ก็จะทำให้ไม่ถูกกรดในกระเพาะอาหารทำลายคอลลาเจนไป อีกทั้งยังช่วยให้คอลลาเจนสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว การกินคอลลาเจนในช่วงก่อนนอน ยังเป็น ช่วงเวลาที่ช่วยให้คอลลาเจนทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพราะว่าในขณะที่หลับ ร่างกายจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และคอลลาเจนที่กินเข้าไปก็จะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง

2. เลือกชนิดของคอลลาเจนให้เหมาะสมกับความต้องการ

สำหรับคอลลาเจนนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลายชนิดเลย แต่ละชนิดก็ช่วยดูแลในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมต่อความต้องการ โดยชนิดของคอลลาเจนสามารถแบ่งได้ 4 ประเภทหลัก ได้แก่

  • คอลลาเจน Type I หรือคอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย 
  • คอลลาเจน Type II หรือคอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในกระดูกอ่อน และวุ้นในตา 
  • คอลลาเจน Type III หรือคอลลาเจนชนิดที่ 3 เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในผิวหนัง, หลอดเลือด และอวัยวะภายใน 
  • คอลลาเจน Type V หรือคอลลาเจนชนิดที่ 4 เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุดในรากผม และเซลล์ผิว 

3. ดื่มน้ำให้มาก ๆ และควรกินคอลลาเจนกับวิตามินซี

การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกาย ในการกินคอลลาเจนเองการดื่มน้ำก็สำคัญมากไม่แพ้กัน โดยเมื่อกินคอลลาเจนแล้วก็ควรจะดื่มน้ำตามมาก ๆ เนื่องจากสามารถช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงหากว่าอยากจะให้กินคอลลาเจนแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีและเห็นผลไวมากขึ้น ก็ควรกินคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซีด้วย เพราะวิตามินซีเป็นสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

กินคอลลาเจนแบบผงดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด

4. กินคอลลาเจนแบบผงดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด

นอกจากที่คอลลาเจนจะมีหลากหลายชนิดแล้ว รูปแบบของคอลลาเจนก็ยังมีให้เลือกหลายแบบด้วยเช่นกัน โดยคอลลาเจนที่กินแล้วให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุด ก็คือ คอลลาเจนชนิดผง เนื่องจากว่าคอลลาเจนแบบผงมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในการดูดซึมได้ดี และเร็วกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด ซึ่งคอลลาเจนชนิดเม็ดจะใช้เวลาในการละลายนานถึง 20-30 นาที ในขณะที่คอลลาเจนชนิดผงไม่ได้ใช้เวลานานมากขนาดนั้น อีกทั้งเมื่อกินคอลลาเจนชนิดผงเข้าไปแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายสามารถนำเอาคอลลาเจนไปใช้ได้เลยทันทีด้วย

5. กินคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสมและพอดีต่อร่างกาย

ในการกินคอลลาเจนนอกจากที่จะต้องกินให้ถูกเวลาแล้ว การกินให้ได้ในปริมาณที่เหมาะสม หรือกินให้ได้ปริมาณที่พอดีต่อร่างกายเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กัน เชื่อว่ามีผู้คนไม่น้อยเลยที่คิดว่า การกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีและไวนั้น จะต้องกินให้ได้ในปริมาณที่มากที่สุด แต่บอกเลยว่าความเชื่อนี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะการที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีจากการกินคอลลาเจนได้ ก็คือ การกินให้ได้ปริมาณที่พอดีเท่านั้น และหากว่ากินมากเกินไปก็อาจจะส่งผลข้างเคียงบางอย่างตามมาได้ ซึ่งปริมาณคอลลาเจนที่เหมาะสมต่อวันก็อยู่ที่ 5,000 – 7,000 มิลลิกรัม ทั้งนี้การกินคอลลาเจนต้องไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเอง 

6. อยากเห็นผลดีต้องกินคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากที่จะต้องให้ความใส่ใจกับปริมาณของคอลลาเจนที่กินแล้ว ในส่วนของความสม่ำเสมอในการกินคอลลาเจนเองก็สำคัญมากไม่แพ้กัน โดยการกินคอลลาเจนจำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องกินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และควรกินอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรกินแบบวันเว้นวัน หรือกินสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง หากทำเช่นนี้ก็ทำให้ปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายควรจะได้รับนั้นไม่เพียงพอ เมื่อร่างกายได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่างได้เลย

7. มองหาคอลลาเจนจากอาหาร

คอลลาเจนเป็นสิ่งที่นอกจากร่างกายของมนุษย์จะสามารถผลิตขึ้นมาได้เอง หรือสามารถเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ด้วยอาหารเสริมแล้ว อาหารก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีคอลลาเจนด้วยเช่นกัน โดยเมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนให้กับร่างกายได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็อาจจะไม่ได้เพิ่มคอลลาเจนให้ร่างกายได้มากกับการกินอาหารเสริมแน่นอน ซึ่งอาหารที่มีคอลลาเจนก็มีหลากหลายมาก ๆ เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, อโวคาโด, มะกอกดำ, มะกอกเขียว, แครอท, มะเขือเทศ, ถั่วชนิดต่าง ๆ และอาหารประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย

8. กินอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ

แม้ว่าการกินคอลลาเจนจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดีมากแล้ว แต่หากว่าขาดการใส่ใจเรื่องอาหารการกิน หรือการพักผ่อน ก็อาจจะทำให้กินคอลลาเจนแล้วไม่ได้ช่วยดูแลร่างกายให้ดีได้เท่าที่ควรจะเป็น ในทางกลับกันหากว่ามีการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี ก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายดีมากขึ้นได้ อีกทั้งเมื่อกินคู่กับคอลลาเจนแล้วก็จะส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมาได้อีก

รู้หรือไม่? เลือกกินคอลลาเจนไม่ดี มีผลข้างเคียงอย่างไร

เลือกกินคอลลาเจนไม่ดี มีผลข้างเคียงอย่างไร

เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า การกินคอลลาเจนที่ถูกต้องนั้นควรกินอย่างไรบ้างให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ในส่วนนี้ก็อยากจะให้ได้เข้าใจถึงเรื่องเกี่ยวกับผลข้างเคียงของคอลลาเจนด้วย หากว่าเลือกกินคอลลาเจนไม่ดี เนื่องจากว่าในท้องตลาดมีคอลลาเจนวางขายจำนวนมาก แต่ละแบรนด์ก็ล้วนมีส่วนผสม หรือสารสกัดของคอลลาเจนที่ต่างกันออกไป ทำให้หากเลือกกินไม่ดี หรือไม่ถูกต้อง ก็จะส่งผลทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ซึ่งผลข้างเคียงของการกินคอลลาเจนก็มีดังต่อไปนี้

  • ทำให้เกิดอาการแพ้ โดยคอลลาเจนส่วนใหญ่มักจะสกัดมาจากปลาทะเล หรือสัตว์ทะเลน้ำลึก จึงทำให้บางคนที่กินเข้าไปอาจจะเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนไปเลย เนื่องจากว่าเมื่อกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้ และอย่างร้ายแรงก็อาจทำให้มีอาการแพ้ที่รุนแรงได้ด้วย ทั้งนี้หากว่าต้องการกินคอลลาเจนก็ควรเช็กส่วนผสมให้แน่ใจก่อน หรือจะปรึกษาแพทย์ก่อนก็ได้เช่นกัน
  • การกินคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน อาจทำให้ไตทำงานหนัก สำหรับการกินคอลลาเจนทุกวันนั้นไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อไต แต่หากว่าเป็นคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน ที่เปรียบเสมือนกับสารปรอทดี ๆ นี้เอง ที่ทำให้เมื่อกินติดต่อกันทุกวันนาน ๆ จะส่งผลให้ไตทำงานหนักขึ้น เนื่องจากว่าหน้าที่ของไต จะต้องทำการขับโลหะหนัก หรือว่าของเสียออกจากร่างกายไป ในทางกลับกันถ้ากินสิ่งที่ช่วยเพิ่มภาระให้ไตทำงานหนักขึ้น ก็คงไม่ใช่สิ่งที่ดีกับไตมากนักนั่นเอง
  • เพิ่มระดับแคลเซียมให้สูงมากเกินไป โดยในเรื่องนี้ได้มีการสนับสนุนมาจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติแล้วว่า การที่ร่างกายมีระดับปริมาณแคลเซียมสูงมากเกินไปนั้น มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเป็นผลข้างเคียงที่ได้มาจากการกินคอลลาเจน โดยจะเป็นคอลลาเจนที่สกัดมาจากกระดูกอ่อนของฉลาม หรือคอลลาเจนที่สกัดจากสัตว์ที่มีเปลือก ซึ่งมักจะให้แคลเซียมในปริมาณที่สูง จึงก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น อาการท้องผูก, อ่อนเพลีย, อาเจียน, คลื่นไส้, ปวดกระดูก หรือว่าหัวใจเต้นผิดปกติ
  • รสชาติที่คาว ทำให้กินแล้วไม่ถูกปาก อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า คอลลาเจนส่วนใหญ่มักจะสกัดมาจากสัตว์ทะเล จึงอาจจะทำให้รสชาติและกลิ่นของคอลลาเจนคาวได้ เมื่อเป็นแบบนี้หลายคนอาจจะไม่สามารถกินคอลลาเจนได้เลย เนื่องจากว่ามีกลิ่นและรสชาติที่คาว ทางที่ดีหากว่าต้องการกินคอลลาเจนให้ง่ายขึ้น ก็ให้เลือกคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของผลไม้ และนอกจากนั้นก็สามารถกินพร้อมกับวิตามิน หรือน้ำผลไม้ได้เช่นกัน

สำหรับทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นวิธีการกินคอลลาเจนที่ถูกต้อง พร้อมกับความสำคัญของการกินคอลลาเจนให้ถูกต้องด้วย ว่าทำไมถึงจำเป็นต้องกินให้ถูกวิธี รวมถึงยังมีผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการกินคอลลาเจนไม่ดีด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่สำคัญ และอยากให้ได้ทำความเข้าใจกันก่อนกินคอลลาเจนนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นการช่วยทำให้กินคอลลาเจนแล้วได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุดด้วย

อ้างอิง