การเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตอนนี้ผู้ชายหลาย ๆ คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพภายในร่างกาย รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเพิ่มบุคลิก ความน่าสนใจ ผิวพรรณ โดยหนึ่งในอาหารเสริมที่ผู้ชายควรกิน ก็ต้องรู้จักกับหนึ่งในอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง “คอลลาเจน” ซึ่งในปัจจุบันนิยมและมีหลากหลายให้ซื้อ จนหลายๆคนสงสัยว่าต้องซื้อคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี แต่ยังซะแน่นอนเลยว่าความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงจะเข้าใจว่า เป็นหนึ่งในส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพที่ดี แต่แท้จริงแล้วเรื่องลึก ๆ ของเจ้าสิ่งนี้ พวกเราได้เจาะลึก คอลลาเจนคืออะไร พร้อมทั้งรวบรวมคุณสมบัติที่คอลลาเจนให้ประโยชน์มากกว่าเรื่องผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผลดีต่อระบบหลอดเลือด ระบบไหลเวียนเลือด การเสริมสร้างกระดูก เอ็น ข้อ กล้ามเนื้อ เป็นต้น เรียกได้ว่าโปรตีนชนิดนี้มีความสำคัญมากต่อร่างกาย แต่ด้วยสิ่งแวดล้อม กับ มลภาวะในปัจจุบัน อาจจะเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ทำให้คอลลาเจนเริ่มสูญเสียมากขึ้นนอกจากการย่อยสลายตามธรรมชาติของร่างกาย แน่นอนเลยว่าในวันนี้พวกเราได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมเจาะลึก พร้อมเรียนรู้เรื่องราวของคอลลาเจนให้คุณได้เข้าใจมากขึ้น


คอลลาเจนคืออะไร 

คอลลาเจนคืออะไร

คำถามที่ทุกคนถามถึงเกี่ยวกับความหมายของ “คอลลาเจน” ซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า เจ้าสิ่งนี้จะอยู่ภายในร่างกายของเราเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว โดยปกติแล้วร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ พร้อมทั้งย่อยสลายได้เองตามระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ที่สำคัญคอลลาเจนนั้นจะพบมากในผิวหนังชั้นในสุด โดยจะทำหน้าที่คล้ายกับกาวที่คอยเสริมโครงสร้างให้ส่วนผิวหนัง กล้ามเนื้อ ข้อต่อ สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นตามระบบของร่างกาย ด้วยจุดเด่นที่ร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างขึ้นเองได้เพราะมีการรับประทาน โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา พืช รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไปย่อยสลายจนแตกตัว แล้วก็ก่อตัวขึ้นใหม่ จนกลายเป็นเส้นในโปรตีน หรือ เรียกว่า “คอลลาเจน” นั่นเอง 


5 ชนิดคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุด 

คอลลาเจนคืออะไร

กว่า 18 ชนิดคอลลาเจน ที่อยู่ภายในร่างกายของเราจะพบได้มากที่สุดอยู่ 5 ชนิดด้วยกัน ด้วยส่วนประกอบของคอลลาเจนที่เทียบได้เป็นร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือ จะคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดของร่างกาย  จะเรียกได้ว่าโปรตีนชนิดนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากต่อโครงสร้างของผิว กระดูกอ่อน รวมทั้งหลอดเลือดด้วย โดยทั้ง 5 ชนิดที่พบได้บ่อยในร่างกายจะมีรายละเอียดแต่ละชนิดดังนี้ 

  • คอลลาเจนประเภทที่ 1 Type I จะพบได้มากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด รวมไปถึงเอ็นกับเอ็นยึดกล้ามเนื้อด้วย พร้อมกับส่วนเนื้อเยื่อที่เกี่ยวกัน จะมีคุณสมบัติที่เหนียว แข็งแรงมากที่สุด โดยมีความสำคัญในการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อฉีกขาดรวม ด้วยคุณสมบัติที่ดีแบบนี้ทำให้ผู้ที่มีคอลลาเจนประเภทนี้เพียงพอก็จะมีผิวดี เนียน ไร้ริ้วรอย
  • คอลลาเจนประเภทที่ 2 Type  II สำหรับในประเภทนี้จะพบมากในกระดูกอ่อน ตัวอย่างเช่น ส่วนประกอบในส่วนจมูก หู หลอดลม รวมทั้งกระดูกซี่โครง โดยจะทำหน้าที่ต่างจากประเภทที่ 1 โดยสิ้นเชิง สำหรับคุณสมบัติที่โดดเด่น จะช่วยกรตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนที่มากขึ้น สำหรับคอลลาเจนในประเภทที่ 2 นี้จะพบได้ในกระดูกอ่อน กับ หมอนรองกระดูกสันหลัง โดยจะทำหน้าที่ในการรับน้ำหนัก พร้อมทั้งเพิ่มความแข็งแรงให้กับข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ในจุดนั้นนั่นเอง 
  • คอลลาเจนประเภทที่ 3 Type  III สำหรับประเภทที่ 3 มักจะพบร่วมกันกับ คอลลาเจนประเภทที่ 1 ซึ่งจะพบในผิว กล้ามเนื้อ ผนังหลอดเลือด รวมทั้งเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันอยู่ในร่างกาย สามารถพบได้แต่ทว่าพบน้อยกว่าประเภทที่ 1 ประมาณ 10% ในส่วนข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายก็จะพบได้น้อยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วคอลลาเจนประเภทที่ 3 นี้ จะพบมากที่สุดคือในส่วนของผนังหลอดเลือดนั่นเอง 
  • คอลลาเจนประเภทที่ 4 Type  IV สำหรับในประเภทที่ 4 นั้น จะถูกพบในส่วนของ basal lamina และ basement membrane จะเป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวไม่เหมือนกับประเภทอื่น ๆ ซึ่งจะพบได้มากที่สุดในส่วนเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ รวมทั้งไขมันด้วย ที่สำคัญความพิเศษของคอลลาเจนประเภทนี้ จะช่วยในเรื่องของการทำงานของระบบประสาท รวมทั้งเส้นเลือดด้วย 
  • คอลลาเจนประเภทที่ 5 Type V สำหรับในประเภทสุดท้ายนี้ จะเป็นอีกหนึ่งประเภทที่พบได้น้อย จะพบในผิวของเซลล์ กับ เส้นผม จะพบคอลลาเจนประเภทนี้ 

หลังจากได้พูดถึง คอลลาเจนคืออะไร และรู้จักคอลลาเจนทั้ง 5 ประเภทของคอลลาเจนไปแล้ว จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ทั่วร่างกาย คอยช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น พร้อมทั้งช่วยเรื่องของผิวที่ทำให้สุขภาพดี ดังนั้นแล้วร่างกายของเราจึงจำเป็นมากที่ต้องรักษาคอลลาเจนเอาไว้ในร่างกายให้สมดุล ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะเกิดอาการผิวหนังแห้ง เหี่ยวย่น มีริ้วรอยได้นั่นเอง สำหรับในบทความนี้พวกเราก็จะมาเปรียบเทียบเรื่องอายุกับการเสื่อมของ “คอลลาเจน” ที่เมื่ออายุมากขึ้นก็จะเสื่อมลงทุกวันด้วย ข้อมูลที่สำคัญเช่นนี้จะเป็นอย่างไรไปดู


อายุ กับ การเสื่อมของ “คอลลาเจน” 

คอลลาเจนคืออะไร

สำหรับ “คอลลาเจน” เป็นโปรตีนที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ตามธรรมชาติก็จริงอยู่ แต่ทว่า เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตคอลาเจนออกมาน้อยลงตามกาลเวลา ซึ่งแน่นอนเลยว่าในปัจจุบันนี้ ร่างกายจะเริ่มหยุดการสร้างตั้งแต่อายุ 30 ปี – 40 ปี เป็นต้นไป ด้วยเวลาที่เร็วขึ้นเพราะสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายค่อนข้างมีผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น สารเคมี ฝุ่นควัน การใช้ชีวิต ซึ่งแต่ละช่วงอายุจะมีเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้ดังต่อไปนี้ 

  • ช่วงอายุ 30-39 ปี : สำหรับผู้ที่มีอายุในช่วงเวลา 30-39 ปี นั้น ผิวของคุณจะเริ่มมองเห็นความบาง รอยย่น อีกทั้งบนหน้าผากก็จะมองเห็นรอยย่น มีริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ใต้ขอบตาล่าง ซึ่งจะเห็นชัดขึ้นเวลายิ้มนั่นเอง ในส่วนของร่องแก้มจากจมูกจนไปถึงเหนือริมฝีมากก็อาจจะมีฝ้า กระ หรือ รอยลึกให้เห็นบ้างแล้ว แต่สำหรับผู้ที่มีคอลลาเจนเพียงพอในร่างกาย ลักษณะดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้น
  • ช่วงอายุ 40-49 ปี : สำหรับในช่วงเวลานี้จะมองเห็นรอยย่นบริเวณหน้าผาก คิ้ว ใต้ขอบตาล่างก็จะมองเห็นรอยชัดเจนมากขึ้น โดยในวัย 40 ปี สำหรับบางคนก็มองเห็นรอยย่นข้างแก้มทอดยาวไปจนถึงมุมปาก พร้อมทั้งมีฝ้าชนิดที่ลึกมาก ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง เริ่มตกกระให้เห็น แน่นอนเลยว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงการเสื่อมของคอลลาเจนมีมากขึ้น เพราะร่างกายจะลดการสร้างลงตามธรรมชาติ 
  • ช่วงอายุ  50-64 ปี : สำหรับในช่วงวัย 50 ปี ขึ้นไป จะมีสภาพผิวที่ยังคล้ายกับวัย 40-45 ปี แต่ทว่าจะมองเห็นรอยย่นทั้งบนใบหน้า รวมทั้งทั่วร่างกายได้ชัดเจน พร้อมทั้งมีติ่งเนื้อเกิดขึ้นตามร่างกาย เพราะว่าในจุดนี้จะมีการเสื่อมของคอลลาเจนลงอย่างมากเลยทีเดียว 
  • ช่วงอายุ 65 ปี ขึ้นไป : ในช่วงเวลานี้ถือได้ว่าเป็นช่วงวัยชรา ที่จะมีผิวหนังที่หยาบกร้าน เพราะร่างกายไม่สามารถผลิตคอลลาเจนได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่เริ่มเข้ามาถามหาในช่วงเวลานี้ แต่ทว่าวิธีที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของผิวนั่นก็คือ การใช้สารสกัดโปรตีนอย่าง “คอลลาเจน” กินเพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปนั่นเอง

ในปัจจุบันเอง ร่างกายของเรานั้นมักจะต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่มีแต่ทำร้ายร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น PM2.5 รวมทั้ง สารเคมี สภาพอากาศที่ส่งผลต่อผิวโดยตรง การดูแลสุขภาพตั้งแต่ในวัย 25 ขึ้นไป หรือ วัย 30 ต้น ๆ ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว อีกทั้งโปรตีนที่ร่างกายต้องการชนิดสำคัญอย่าง “คอลลาเจน” นอกจากจะมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูมีความยืดหยุ่นแล้ว ก็ยังส่งผลดีต่อเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งพวกเราก็ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับคอลลาเจนที่มีประโยชน์มากกว่าเรื่องผิวด้วย


คอลลาเจนประโยชน์ดี ๆ ที่ให้ได้มากกว่าเรื่องผิว 

คอลลาเจนคืออะไร

หลังจากที่คุณเองได้ทราบถึงช่วงอายุของการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนไปแล้ว ก็อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือในเรื่องของการดูแลสุขภาพมากขึ้น แน่นอนเลยว่าสิ่งที่โดดเด่นสำหรับคอลลาเจนเลยก็คือ การรับประทานแล้วผิวจะดี มีความยืดหยุ่น แต่ทว่าประโยชน์ของคอลาเจนนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่การรักษาดูแลผิว แต่ยังมีประโยชน์อีกหลายด้านดังต่อไปนี้ 

1. ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น 

เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเกี่ยวข้องกับการดูแลผิว แต่รอยเหี่ยวย่นที่กวนใจใครหลายคน รวมทั้งแผลเป็นบางชนิด ที่สามารถทำให้ดูจางลงได้ด้วยการรับประทานคอลลาเจน เพราะว่าประโยชน์ที่สามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำงานร่วมกับวิตามินซี ทำให้ร่างกายกลับมาดูผิวสุขภาพดีได้อีกครั้ง พร้อมทั้งริ้วรอยที่เคยมองเห็นได้ชัด รอยเหี่ยวย่นที่กวนใจ ก็จะดูเต่งตึงขึ้นไม่ยวบย้วย 

2. ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ 

สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการปวดข้อ บอกเลยว่าประโยชน์จากการรับประทานคอลลาเจนจะไม่ได้ดูแลคุณแค่เรื่องผิวเพียงอย่างเดียว เพราะว่าคอลลาเจนนั้นมีคุณสมบัติที่สามารถบรรเทาอาการปวดข้อ พร้อมทั้งช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดได้ดีขึ้น  นอกจากนั้นแล้วยักช่วยรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ด้วย โดยคอลลาเจนนั้นจะมาสามารถทานได้ทุกเพศ ทุกช่วงวัยเลยทีเดียว  

3. ช่วยสลายโปรตีน ช่ำบำรุงภายในลำไส้ 

สำหรับคอลลาเจนจะเข้าไปช่วยสลายโปรตีน พร้อมทั้งบำรุงภายในลำไส้ของเรา รวมไปถึงการรักษาผนังเซลล์ ที่อาจจะเกิดความเสียหายจากกากอาหาร พร้อมทั้งยังช่วยดูดซับน้ำภายในลำไส้ ที่จะส่งผลใหอวัยวะภายในร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างตามที่ต้องการ 

4. ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ 

สำหรับใครที่ออกกำลังกาย หรือ เล่นกีฬา คงจะทราบกันดีว่าต้องการเผาผลาญพลังงานให้ร่างกายได้รับปริมาณที่พอดี แต่ทว่าคอลลาเจนก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ สามารถเผาผลาญให้ร่างกายที่ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมัน พร้อมทั้งยังช่วยในการแปลงสภาพของสารอาหาร ที่จะเปลี่ยนรูปแบบพลังงานภายในร่างกาย ไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 

5. ช่วยบำรุงเหงือก และ ฟัน 

คอลลาเจนเอง ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงเหงือก ฟัน รวมทั้งสุขภาพภายในช่องปากให้ดีอยู่เสมอด้วย เพราะเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่ช่วยให้แคลเซียมไปบำรุงกระดูกเหงือกและฟัน ดังนั้นการรับประทานคอลลาเจนยังช่วยในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน 

6. คอลลาเจน ช่วยลดอาการตาแห้ง บำรุงสายตา

สายตา มีความสำคัญมากต่อการใช้ชีวิต แน่นอนเลยว่า “คอลลาเจน “สามารถช่วยลดอาการตาแห้ง เพราะจะเข้าไปสร้างความชุ่มชื้นให้กับเลนส์ตา นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โปรตีนชนิดนี้ช่วยสร้างสมดุลให้กับทุกส่วนของดวงตา

7. ช่วยป้องกัน การสูญเสียมวลกระดูก รักษาโรคต่าง ๆ 

สำหรับคอลลาเจน เมื่อรับประทานคู่กับวิตามิน จะมีส่วนช่วยในการป้องการการสูญเสียมวลกระดูกด้วย จะเหมือนกับช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย นอกจากนั้นแล้วยังช่วยรักษาโรคหัวใจ บำรุงหัวใจได้อีกด้วย 


สำหรับประโยชน์ในเรื่องอื่น ๆ ต้องมองว่า “คอลลาเจน” เป็นหนึ่งในโปรตีนเสริมที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทำให้ห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมทั้งความมั่นใจในการใช้ชีวิต ผิวดี สุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แน่นอนว่ามันจะช่วยให้คุณมองโลกนี้สดใสมากขึ้นด้วยนั่นเอง นอกจากเรื่องนี้ก็จำเป็นมากที่คุณเองจะต้องดูแลสุขภาพในเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่, การออกกำลังกาย ที่ควรทำเป็นประจำ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อวัน ลดความเครียด ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคร้ายได้เช่นเดียวกันนั่นเอง 


อยากเสริมคอลลาเจนสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ?

เมื่อรู้ข้อมูลของ “คอลลาเจน”  ที่มีประโยชน์หลายด้านไปแล้ว แน่นอนเลยว่าโปรตีนชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งชนิดที่คนรักสุขภาพต้องการที่จะให้อยู่ภายในร่างกายไปนาน ๆ แต่สิ่งสำคัญนั่นก็คือ วิธีการคงอยู่ของคอลลาเจนที่จำเป็นที่จะต้องมีการเสริมอยู่ตลอดเวลา ทั้งในรูปแบบของการสังเคราะห์เป็นโปรตีนเสริม หรือ การรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตที่จะต้องมีการปฏิบัติตัวที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียคอลลาเจน แน่นอนเลยว่าทุกเรื่องที่กล่าวมาพวกเราก็ได้รวบรวมวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายอยู่เสมอ จะต้องทำอย่างไร ? วันนี้พวกเราหาคำตอบนั้นมาให้แล้ว


เสริมคอลลาเจนด้วยอาหาร 

คอลลาเจนคืออะไร

สำหรับคอลลาเจนเอง นอกจากการสร้างขึ้นเองภายในร่างกายแล้ว การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ อาหารที่มีโปรตีนคอลลาเจน ก็จะช่วยเสริมคอลลาเจนได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น โปรตีน ที่จะเต็มไปด้วยประโยชน์กับวัตถุดิบสำคัญในการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ด้วยกรดอะมิโน 16 ชนิดที่สร้างคอลลาเจน ทำให้โปรตีนจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนนั่นเอง 

ส่วนวัตถุดิบอาหาร หรือ อาหารชนิดอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนจะมีรายการดังต่อไปนี้ 

  • พืชที่อุดมไปด้วย “กรดอะมิโน” เช่น เมล็ดเจีย สาหร่ายสไปรูลิน่า ซึ่งจะมีกรดอะมิโนที่ร่างกายจำเป็น โดยใช้สร้างคอลลาเจนในร่างกายนั่นเอง
  • ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักเคล ก็จะมีส่วนช่วยผลิตคอลลาเจนได้ดี อีกทั้งวิตามินซีในผักที่มีสูงมาก เป็นตัวช่วยให้ทำงานคู่กับคอลลาเจนได้ดีด้วยเช่นกัน
  • น้ำซุปต้มกระดูก ใครบ้างชอบรับประทาน บอกได้เลยว่าเมนูนี้จะเป็นแหล่งของโปรตีนคอลลาเจนชั้นดีมาก เพราะตัวของ “คอลลาเจน” จะมาจากน้ำต้มซุป โดยรับประทานได้ทั้งกระดูกวัว กระดูกหมู โครงไก่ และ ก้างปลา  อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ กับ ลีนโปรตีน หรือ โปรตีนที่ปราศจากไขมันในปริมาณสูงซึ่งดีต่อผิวด้วย 
  • ผลไม้ ที่อุดมด้วย วิตามินซี  เช่น ฝรั่ง ส้ม เบอรี่ กีวี และ สัปปะรด เป็นต้น
  • ผักสีแดง ตัวอย่างเช่น มะเขือเทศ จะช่วยบำรุงผิวเพราะว่ามีวิตามิน ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย และ ผิวพรรณสูงมาก อีกทั้งยังส่งผลดีกับคอลลาเจน ที่จะทำงานควบคู่กันกับการต่อต้านอนุมูลอิสระ 
  • การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน เพราะว่า “น้ำ” เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่ร่างกายต้องการ เพราะจะช่วยให้ทุกระบบอวัยวะทำงานได้อย่างลงตัว อีกทั้งการรับประทานน้ำให้เพียงพอต่อวัน ยังช่วยเสริมการทำงานให้คอลลาเจน วิตามินซี รวมทั้งวิตามินชนิดอื่น ๆ สามารถเผาผลาญ ดูดซึม ได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก 

สำหรับตัวอย่างของวัตถุดิบอาหาร หรือ อาหารข้างต้นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งของคอลลาเจน สารต้านอนุมูลอิสระ แน่นอนเลยว่าการรับประทานอาหารจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยังคงช่วยรักษาคอลลาเจนเอาไว้ในร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุลได้เช่นกัน 


 เสริมคอลลาเจนด้วยการ รักษาคอลลาเจน

วิธีการเสริมคอลลาเจนอีกหนึ่งวิธีก็คือ “การรักษาคอลลาเจน” เอาไว้ในร่างกายให้ได้ดีที่สุด ซึ่งแน่นอนเลยว่าจะต้องลดปัจจัยเสี่ยง หรือ เอาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยงที่จะทำให้คอลลาเจนเสื่อมได้เร็วขึ้นนั่นเอง แน่นอนเลยว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวัน ถ้าหากว่าไม่อยากให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วก็ควรที่จะต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ 

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดจะมี   UVA , UVB ทำร้ายผิว ส่งผลให้คอลลาเจนที่ผิวได้รับผลกระทบโดยตรง ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้อยู่ในบ้าน
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีจากครีมไร้ อย. หรือ ไร้คุณภาพ เพราะ สารเคมีบางชนิดที่อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง ซึ่งอาจจะส่งผลให้สูญเสียคอลลาเจนในผิวได้
  • งดสูบบุหรี่ และ สารเสพติด 
  • รักษาคอลลาเจนด้วยการดูแลตัวเอง ทาครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่ร้อน หรือ แดดจัดได้ ให้สวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด 

แน่นอนเลยว่าการรักษาคอลลาเจนในร่างกาย เป็นเรื่องจำเป็นมากในปัจจุบัน เพราะด้วยสิ่งแวดล้อมตอนนี้ พิษจากฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย บางครั้งร่างกายถ้าขาดความแข็งแรงก็อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้ สำหรับใครที่ต้องการรักษาคอลลาเจน หรือ มองหาวิธีเสริมคอลลาเจน เชื่อเลยว่าข้อมูลข้างต้นจะทำให้ทุกท่านได้คำตอบ


เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับ “คอลลาเจน” ที่พวกเราได้หยิบยกขึ้นมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจง่ายขึ้นเกี่ยวกับ โปรตีนชนิดสำคัญที่ร่างกายต้องการเป็นอย่างมาก เพราะว่าประโยชน์ในเรื่องของการดูแลผิว ดูแลร่างกาย กระดูก ข้อต่อ รวมไปถึง ประโยชน์ทางด้านจิตใจที่จะทำให้คุณมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น จากผิวที่ดูขาวขึ้น สุขภาพดีขึ้น ทุกส่วนของร่างกายดูอ่อนกว่าวัย แน่นอนเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณผู้ชายที่ต้องการดูแลตัวเอง มีผิวกระเนียนกระจ่างใส นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ “คอลลาเจน” คืออาหารเสริมที่กำลังมาแรงอยู่ในตอนนี้ สุดท้ายนี้พวกเราหวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะช่วยให้คุณศึกษา พร้อมทั้งเข้าใจเกี่ยวกับคอลลาเจนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นใครที่กำลังจะหันกลับมาดูแลตัวเองไม่ต้องกังวล เพียงแค่คุณเริ่มก็เท่ากับว่าคุณชนะแล้ว 


อ้างอิง: