ทุกคนเคยได้ยินคำว่า สเตียรอยด์กล้าม หรือไม่? ซึ่งสเตียรอยด์จะถือเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายของเราสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ตามธรรมชาติ โดยจะผลิตมาจากต่อมหมวกไต ซึ่งจะเป็นต่อมไร้ท่อขนาดเล็ก ที่อยู่เหนือไตทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนที่สำคัญต่อร่างกายอีกหลากหลายชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายอีกด้วย
และในปัจจุบันแพทย์ส่วนใหญ่ได้นำสเตียรอยด์เข้ามารักษาอาการเจ็บป่วย รวมทั้งในเรื่องของความงามด้วยเช่นกัน แต่สำหรับใครที่เป็นนักกล้าม ชอบมองหาวิธีฟิตร่างกายให้แข็งแรง หรืออยู่ในกลุ่มของคนเล่นกีฬา จะคุ้นเคยกับสเตียรอยด์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้การใช้สเตียรอยด์จะมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ทุกคนจึงจำเป็นต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อลดผลข้างเคียงให้เหลือน้อยที่สุด
สเตียรอยด์คืออะไร
สเตียรอยด์จะถือเป็นตัวยาสำคัญ ที่มีสรรพคุณรักษาโรคได้หลากหลายโรคด้วยกัน และถูกนำมาใช้ทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง โดยสเตียรอยด์จะเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย อย่างเช่น ต้านการอักเสบ ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ รวมทั้งช่วยกดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ทั้งนี้ยังมีสเตียรอยด์ที่เอาไว้ใช้สำหรับการแพทย์ คือ คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ซึ่งจะเป็นการสังเคราะห์ที่เลียนแบบสเตียรอยด์ที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ โดยหวังผลว่าสเตียรอยด์ทางการแพทย์นี้จะมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของร่างกาย อีกทั้งยังมีสารสเตียรอยด์กล้ามที่เรียกกันว่า Anabolic Androgenic Steroids หรือ Anabolic Steroids ซึ่งจะเป็นยาที่สังเคราะห์จากสเตียรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งจะมีหน้าที่คล้ายคลึงกับเทสโทสเตอโรน ที่จะมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโตด้วยการฉีดสารนี้เข้าไปในกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ รวมทั้งการกินทางปากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายอยู่แล้ว คุณอาจสนใจบทความนี้ ชุดออกกำลังกายผู้ชาย
สเตียรอยด์มีกี่ประเภท
สำหรับสาสเตียรอยด์ในทางการแพทย์ในปัจจุบัน จะมีทั้งหมด 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ คอร์ติโคสเตียรอยด์และยาอะนาบอลิก แอนโดรจีนิกสเตียรอยด์ นั่นเอง ซึ่งแต่ละประเภทจะมีการใช้งาน และมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยสเตียรอยด์ มีอะไรบ้าง และทั้งสองประเภทจะมีความแตกต่างกันอย่างไร เราได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ มาให้คุณเรียบร้อยแล้ว ดังนี้
- คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) : สเตียรอยด์ รักษา กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มยาชนิดหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้สำหรับลดการอักเสบของร่างกาย ช่วยกดภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดบวม ผื่นแดง อาการคัน และอาการแพ้อื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นสเตียรอยด์กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่แพทย์นิยมนำไปใช้ในการรักษาโรคหอบหืด ข้ออักเสบ ภูมิแพ้ และโรคผิวหนังอีกด้วย
- ยาอนาบอลิก-แอนโดรจีนิกสเตียรอยด์ (Anabolic androgenic steroid ย่อว่า AAS) : AAS หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ คือ ยาอนาบอลิก สเตียรอยด์นั่นเอง ซึ่งกลุ่มยาชนิดนี้จะมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับฮอร์โมนเพศชายเป็นอย่างมาก และก่อให้เกิดผลต่อการเพิ่มโปรตีนภายในเซลล์ โดยเฉพาะในเซลล์กล้ามเนื้อ ส่งผลให้ผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ในกลุ่มนี้จะมีความเป็นชายที่โดดเด่นมากที่สุด
โดยหลาย ๆ คนได้เรียกยาสเตียรอยด์ประเภทนี้ว่า สเตียรอยด์กล้ามนั่นเอง หรือหากใช้ยาสเตียรอยด์กลุ่มนี้กับผู้หญิง อาจจะก่อให้เกิดภาวะบุรุษภาพในผู้หญิงได้นั่นเอง อย่างเช่น มีเสียงทุ้มเหมือนผู้ชาย มีขนดก เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และสารฮีโมโกลบิลอีกด้วย
สเตียรอยด์ช่วยเพิ่มกล้ามได้อย่างไร?
สเตียรอยด์กล้ามจะเป็นที่รู้จักกันอย่างดีสำหรับผู้ที่เล่นกล้าม เพราะสเตียรอยด์จะถือเป็นทางลัดในการสร้างกล้ามเนื้อเลยก็ว่าได้ เพราะสารชนิดนี้จะสามารถทำงานได้อย่างดีในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะ Anabolic Steroids จะเข้าไปช่วยเพิ่มจำนวนฮอร์โมน Testosterone ในร่างกายของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อการเกิดพัฒนามวลกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้นนั่นเอง เมื่อเราใช้สารเตียรอยด์แล้ว จะเห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อเราออกกำลังกายไม่นาน กล้ามเนื้อจะใหญ่ขึ้นในทันที ทั้งนี้อาจจะทำให้มีหน้าอกขึ้นมาเหมือนหน้าอกของผู้หญิงด้วยเช่นกัน
แต่ทั้งนี้การใช้สเตียรอยด์กล้าม หรือการใช้สารสเตียรอยด์ จะถือเป็นสิ่งที่อันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงอีกเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การก่อให้เกิดโรคหัวใจ ปัญหาในเรื่องของไต มะเร็ง สภาวะซึมเศร้า และปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าผลข้างเคียงเหล่านี้จะยังไม่เห็นผลแบบ 100% แต่หากเราใช้ไปนาน ๆ รับรองได้เลยว่าร่างกายของเราจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งในทางที่ดีและผลข้างเคียงที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
ผลข้างเคียงจากการใช้ สเตียรอยด์กล้าม
รู้หรือไม่ว่าสเตียรอยด์ไม่ได้ให้ผลดีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากเรากินหรือฉีดสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ๆ จะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก หรือที่เรียกกันว่ายาสเตียรอยด์ ผลข้างเคียง ได้แก่ การติดเชื้อโรคได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากยาจะเข้าไปกดการทำงานของภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย การเป็นเบาหวาน เพราะยาจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการบวมและเป็นความดันโลหิตสูง เพราะยาจะทำให้การขับน้ำลดลง แต่จะเพิ่มการสะสมไขมันที่หน้า หลัง และท้องนั่นเอง รวมทั้งการเกิดกระดูกพรุน แผลในทางเดินอาหาร ผิวหนังเหี่ยวย่น และตาเป็นต้ออีกด้วย และนอกจากนี้หากมีการใช้สเตียรอยด์จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- มีหน้าอกที่คล้ายคลึงกับผู้หญิง: โดยหน้าอกของผู้ชายจะมีชื่อว่าวิทยาศาสตร์ว่า Gynecomastia และหากผู้ชายคนไหนที่ใช้สเตียรอยด์มากเกิดไป อาจจะได้รับสิ่งนี้มาเป็นผลข้างเคียงของการใช้สเตียรอยด์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทุกคนจะรู้จักกับฮอร์โมน Testosterone ซึ่งจะเป็นฮอร์โมนเพศชาย ส่วน Estrogen จะเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งทั้งสองฮอร์โมนจะมีหน้าที่ในการควบคุมความเหมาะสมในการพัฒนาของลักษณะทางเพศของเรา แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า ร่างกายของเราทุกคนสามารถผลิตฮอร์โมนได้ทั้งสองชนิด แต่หากเราอัดฮอร์โมนเพศชายเข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนมาก ร่างกายของเราจะต้องสร้างฮอร์โมนเพศหญิงขึ้นมาให้เท่ากับฮอร์โมนเพศชายด้วยกัน เพื่อเป็นการสร้างสมดุล ดังนั้นจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้ชายมีหน้าอกคล้ายคลึงกับผู้หญิงได้นั่นเอง
- มีสิวที่หลังจำนวนมาก: สิวที่หลังจะสามารถเกิดขึ้นได้หากเราใช้สเตียรอยด์กล้าม เพื่อเร่งให้ Testosterone เพิ่มขึ้น แล้วร่างกายยังไม่จัดการกับฮอร์โมนใหม่ในร่างกายของเรา โดยเฉพาะกับคู่ต่อมในร่างกายที่มีความไวต่อฮอร์โมนในเพศชายเป็นอย่างมาก และเริ่มสร้างน้ำมันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวจำนวนมากในที่สุด
- อัณฑะมีขนาดเล็กลง: ทางการแพทย์ได้วิจัยออกมาแล้วว่า การใช้สเตียรอยด์กล้ามจำนวนมากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับอัณฑะของเราได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้อัณฑะมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะอัณฑะจะได้รับสัญญาณจากสมองว่า ให้ผลิตฮอร์โมนเพศชายและอสุจิ แต่หากเราอัดฮอร์โมนเพศชายเข้าไปมาก ๆ สมองของเราจะหยุดสั่งการการผลิตฮอร์โมนในทันที เพราะว่าร่างกายของเรามีฮอร์โมนมากเพียงพอแล้ว และเมื่ออัณฑะไม่มีการผลิตฮอร์โมนและไม่ทำงาน จะทำให้หยุดการผลิตอสุจิ และทำให้เป็นหมันได้ในที่สุด
- เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย: สำหรับใครที่เล่นกล้าม หรือเป็นนักเพาะกายที่ใช้สเตียรอยด์กล้าม จะรู้กันเป็นอย่างดีว่า ฮอร์โมนจะส่งผลต่อสมอง ซึ่งตัวฮอร์โมนเพศชายจะส่งผลกระทบกับสมองบางส่วน ที่มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์โกรธ และก้าวร้าว และผู้ใช้สเตียรอยด์เพิ่มกล้ามหลาย ๆ คนได้ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อใช้สเตียรอยด์กล้าม pantip เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้การควบคุมอารมณ์เป็นไปได้ยากมากขึ้น ส่งผลให้มีอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่ายนั่นเอง
การใช้สเตียรอยด์แม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในทางการแพทย์ก็จริง แต่การใช้สเตียรอยด์เพื่อเพิ่มกล้ามในนักกีฬาเพาะกาย หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่มีความอันตรายได้เลยทีเดียว จนทำให้แพทย์ได้ออกมาเตือนการใช้สเตียรอยด์ในทางที่ผิดอยู่เป็นจำนวนมาก แถมในนักกีฬายังมีการห้ามใช้สเตียรอยด์อีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดหากต้องการเพิ่มกล้ามได้อย่างรวดเร็ว แนะนำให้ออกกำลังกายโดยอาจมองหาฟิตเนสเปิดบริการ 24 ชม. และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะดีเสียกว่า เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และไม่เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อร่างกายนั่นเอง
อ้างอิงจาก
- สเตียรอยด์ เป็นอย่างไร อันตรายหรือไม่. https://www.pobpad.com/
