เมื่อพูดถึงเรื่องของการกินคอลลาเจน ก็ต้องบอกเลยว่าทุกวันนี้การกินคอลลาเจนกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจะสามารถเห็นได้จากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนที่มีให้เลือกซื้อมากมาย นั่นก็เพราะว่าผู้คนให้ความสนใจและนิยมกันจึงทำให้มีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกมาจำนวนมากนั่นเอง และอีกส่วนหนึ่งคือผู้คนหันมาให้ความสนใจกับการดูแลตัวเองกันมากขึ้นแล้ว แน่นอนว่าความโด่งดังของคอลลาเจนก็มาจากประโยชน์หรือข้อดีที่ผู้กินได้รับ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นที่ชื่นชอบกับของผู้คน แล้วรู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว คอลลาเจนกินตอนไหนดีสุด หากกินถูกช่วงเวลาก็ทำให้ได้ผลที่ดีมากขึ้น แล้วจะเป็นช่วงไหนบ้าง ควรเลือกซื้อคอลลาเจนแบบไหน มาดูกัน


คอลลาเจนกินตอนไหนดีสุด กินตอนเช้ากับตอนก่อนนอนต่างกันอย่างไร

คอลลาเจนกินตอนไหนดีสุด กินตอนเช้ากับตอนก่อนนอนต่างกันอย่างไร

ในการกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีนั้น นอกจากที่จะต้องกินให้เหมาะสมกับความต้องการแล้ว ก็ควรจะต้องกินในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย เนื่องจากว่าจะสามารถช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นในการกินคอลลาเจน แล้วหากจะถามว่า คอลลาเจนกินตอนไหนดีสุด ต้องตอบเลยว่ามี 2 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ การกินคอลลาเจนในตอนเช้า โดยการกินคอลลาเจนในช่วงเช้า จะเป็นช่วงที่ท้องว่าง เมื่อกินคอลลาเจนเข้าไปแล้วจึงช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้คอลลาเจนไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลายไปได้ด้วย

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินคอลลาเจน ก็คือ การกินในช่วงก่อนนอน โดยการกินคอลลาเจนช่วงก่อนนอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ดีไม่แพ้กัน เพราะว่ากรดอะมิโนที่อยู่ภายในคอลลาเจนจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงกลางคืน อีกทั้งเมื่อนอนหลับร่างกายจะทำการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่สึกหรอ ซึ่งคอลลาเจนที่กินเข้าไปจะมีส่วนช่วยในการทำให้ร่างกายฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง รวมถึงการกินคอลลาเจนในช่วงกลางคืน ก็ยังเป็นช่วงที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้ดีมากไม่แพ้กันเลย

อย่างไรก็ตาม การกินคอลลาเจนตามช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีได้แล้ว แต่หากว่ามีการกินคอลลาเจนควบคู่ไปกับวิตามินซี ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายมากขึ้นด้วย เนื่องจากว่าวิตามินซีเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงควรอย่างยิ่งที่จะกินวิตามินซีด้วย รวมถึงการกินคอลลาเจนเฉย ๆ อาจจะกินยากสำหรับบางคน เพราะ คอลลาเจนส่วนใหญ่สกัดจากปลาทะเล บางตัวจะมีกลิ่นและรสชาติที่คาว ซึ่งการกินคอลลาเจนพร้อมกับวิตามินซีก็สามารถช่วยให้การกินคอลลาเจนง่ายมากขึ้นได้


ควรกินคอลลาเจนปริมาณเท่าไหร่ แล้วกินนานไหมกว่าจะเห็นผล

ควรกินคอลลาเจนปริมาณเท่าไหร่ แล้วกินนานไหมกว่าจะเห็นผล

จากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ก็คงจะช่วยทำให้ได้เข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่า ควรกินคอลลาเจนตอนเช้าหรือก่อนนอนดี หรือควรกินตอนช่วงไหนบ้าง โดยในส่วนนี้ก็จะมาอธิบายถึงเรื่องประโยชน์ และปริมาณคอลลาเจนที่ควรกินกันบ้าง สำหรับคอลลาเจนเป็นสิ่งที่เมื่อกินแล้วจะช่วยในเรื่องของการแก้ปัญหาผิวพรรณหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น หรือว่าผิวพรรณที่มีริ้วรอย นอกจากนั้นแล้วคอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและข้อต่อให้กลับมาแข็งแรงได้ด้วย 

ปัจจุบันนี้การเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีเลย ทั้งการฉีดคอลลาเจน การกินคอลลาเจนที่มีทั้งคอลลาเจนแบบชงดื่ม หรือคอลลาเจนแบบเม็ด อีกทั้งยังมีคอลลาเจนที่มีในรูปแบบของสกินแคร์ต่าง ๆ ด้วยนั่นเอง โดยคอลลาเจนแต่ละรูปแบบนั้นก็มีวิธีการใช้ และให้ผลลัพธ์ได้แตกต่างกันไปด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกเติมคอลลาเจนแบบตามรูปแบบไหนให้กับร่างกาย

มาถึงในเรื่องของปริมาณ และผลลัพธ์ของการกินคอลลาเจนกันบ้าง ที่จะต้องรู้ว่า การกินคอลลาเจนควรกินปริมาณแค่ไหน แล้วกินนานไหมกว่าที่จะเห็นผล โดยการกินคอลลาเจนเพื่อให้ช่วยในการดูแลผิวนั้น จากงานวิจัยระบุว่า เมื่อกินคอลลาเจน 2.5–5 กรัมต่อวันอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะสามารถช่วยลดความแห้งกร้าน และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวพรรณได้เป็นอย่างดีด้วย 

ในขณะที่การ กินคอลลาเจนเพื่อช่วยดูแลกระดูกนั้น ควรกินคอลลาเจนในปริมาณ 5 กรัมต่อวัน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 เดือน พบว่า คอลลาเจนสามารถช่วยให้ค่าความหนาแน่นของมวลกระดูกนั้นเพิ่มมากขึ้นได้ อีกทั้งยังพบว่าเมื่อมีการกินคอลลาเจนคู่กับแคลเซียมแล้วกินอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาเท่ากัน ก็ยังสามารถช่วยลดระดับโปรตีนที่ทำให้กระดูกเสื่อมได้อีกด้วยนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้จากคอลลาเจนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และผลลัพธ์ที่ดีของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญหากว่าอยากให้กินคอลลาเจนแล้วได้ผลดี ได้ผลไว้ ก็คือ จะต้องกินให้เหมาะสมเท่านั้นเอง


คอลลาเจนกับสิ่งที่ไม่ควรกินด้วยกัน

คอลลาเจนกับสิ่งที่ไม่ควรกินด้วยกัน

เมื่อได้ทราบแล้วว่ากินคอลลาเจนนานแค่ไหนเห็นผล และการกินคอลลาเจนควรกินในปริมาณเท่าไหร่ นอกจากเรื่องเหล่านั้นแล้ว ในเรื่องของสิ่งที่ไม่ควรกินกับคอลลาเจนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ และผู้ที่กินคอลลาเจนจำเป็นต้องรู้เอาไว้ด้วย เนื่องจากว่าสิ่งที่ต้องห้าม หรือควรหลีกเลี่ยงในการกินคอลลาเจนนั้น หากว่ากินเข้าไปแล้วอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายทางใดทางหนึ่งได้ รวมถึงยังส่งผลต่อคอลลาเจนที่กินเข้าไปด้วย ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรกินคู่กับคอลลาเจนก็มีดังต่อไปนี้

  • ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีท็อกซ์ การที่ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีท็อกซ์กับคอลลาเจนนั้นก็เป็นเพราะว่า ผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์เป็นสิ่งที่จะช่วยในเรื่องของการขจัดสารตกค้างที่อยู่ในร่างกาย และการขจัดนี้ก็ไม่ได้มีการแบ่งว่าสารไหนมีประโยชน์ต่อร่างกายบ้าง ทำให้เมื่อกินคอลลาเจนพร้อมกับดีท็อกซ์ คอลลาเจนที่กินเข้าไปจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย และไม่ได้มีโอกาสดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกินคู่กัน แต่หากว่าต้องการกินดีท็อกซ์จริง ๆ ก็แนะนำว่าให้เว้นระยะไปกินหลังจากกินคอลลาเจนไปแล้วอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
  • ผลไม้และผักที่มีน้ำเยอะ สำหรับผักและผลไม้ทุกชนิดที่มีน้ำเยอะ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินคู่กับคอลลาเจนเช่นกัน เนื่องจากว่าผลไม้และผักที่มีน้ำเยอะ เป็นสิ่งที่จะไปช่วยเร่งระบบขับถ่าย จึงทำให้ร่างกายเกิดการขับปัสสาวะออกมาอย่างรวดเร็วมากขึ้น หากว่าเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างเต็มที่
  • มีโรคประจำตัว โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต, นิ่ว, มะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับลิ่มเลือด ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกินคอลลาเจน นอกจากนั้นแล้วผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือว่าต้องให้นมบุตรก็ไม่ควรกินคอลลาเจนด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าการกินคอลลาเจนอาจจะเข้าไปลดประสิทธิภาพของยาที่กินอยู่ได้ หรือเมื่อกินแล้วก็อาจจะทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ตามมา จึงควรหลีกเลี่ยงการกินไปเลยดีกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากจะกินคอลลาเจนจริง ๆ ก็แนะนำว่าให้ปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง

กลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจน

  • ผู้ที่แพ้อาหารทะเล สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเลเอง ก็เป็นกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนเช่นกัน เนื่องจากว่าคอลลาเจนส่วนใหญ่มักจะสกัดมาจากปลาทะเล หรือว่าสัตว์ทะเล จึงทำให้มีความเสี่ยงมาก ๆ ที่จะเกิดอาการแพ้หากว่าผู้ที่แพ้อาหารทะเลกินเข้าไป โดยเฉพาะคนที่แพ้อาหารทะเลแบบรุนแรงเป็นไปได้ก็ไม่ควรกินคอลลาเจนเลย
  • ผู้ที่เคยมีอาการแพ้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน เนื่องจากว่าในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนแต่ละแบรนด์ก็จะมีการใส่ส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป แต่ละส่วนผสมก็อาจจะไม่ใช้ทุกคนที่จะสามารถกินได้ เพราะบางคนก็มีอาการแพ้ ทางที่ดีหากว่าเคยมีประวัติการแพ้ส่วนผสมที่อยู่ในอาหารเสริมคอลลาเจน ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนไปเลยดีกว่า หรือว่าอยากจะกินก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อสอบถามว่าสามารถกินคอลลาเจนตัวไหนได้บ้าง หรือควรกินในปริมาณมากน้อยแค่ไหน
  • ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรอผ่าตัด หรือกำลังอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยผู้คนกลุ่มนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนเช่นกัน เนื่องจากว่าเมื่ออยู่ในระหว่างการรอผ่าตัด หรือแพทย์ดูแลอยู่ ก็จะต้องกินสารอาหารตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น และไม่ควรกินสารอาหารอื่น ๆ นอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง เพราะอาจจะส่งผลทำให้ยาที่หมอจ่ายให้มีประสิทธิภาพที่ลดลง หรือทำให้เกิดอันตรายตามมาได้
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินกับคอลลาเจนเช่นกัน แม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อคอลลาเจนที่กินเข้าไป แต่การดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายมีการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ลดน้อยลง รวมถึงคอลลาเจนที่กินเข้าไปแล้วด้วย ดังนั้นหากว่าต้องการกินคอลลาเจนให้ได้ผล ก็ไม่ควรกินพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้หากว่าต้องการกินคอลลาเจน ก็แนะนำว่าให้ดื่มหลังจากกินดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง
  • กินคอลลาเจนไม่สม่ำเสมอและไม่ต่อเนื่อง ในการกินคอลลาเจนให้ได้ผลจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกินอย่างต่อเนื่อง และกินให้สม่ำเสมอ เนื่องจากว่าการกินคอลลาเจนไม่สม่ำเสมอ หรือไม่ต่อเนื่องนั้น จะส่งผลทำให้คอลลาเจนที่กินเข้าไปเห็นผลได้ช้า หรือแทบจะไม่ทำให้เห็นผลเลย เพราะร่างกายได้รับการเติมคอลลาเจนที่เพียงพอ จึงไม่สามารถนำเอาคอลลาเจนไปใช้ในการฟื้นฟูร่างกายจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
  • เครื่องดื่มที่รสหวานจัด สำหรับการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัดนั้นไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อคอลลาเจน แต่เป็นสิ่งที่จะผลต่อน้ำตาลในเลือดแทน เนื่องจากว่าการกินเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หรือมีรสชาติหวานจัดเป็นประจำทุกวัน ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นได้ และในที่สุดก็จะทำให้เป็นโรคอ้วน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นได้จากการที่ผู้คนมักนิยมกินคอลลาเจนกับเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวาน เพื่อให้สามารถดับความคาว และช่วยให้กินคอลลาเจนได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นเรื่องราวของการกินคอลลาเจน ที่ช่วยทำให้ได้เข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่า การกินคอลลาเจนควรจะกินตอนไหน กินช่วงเวลาใด ควรกินปริมาณแค่ไหน และกินนานไหมกว่าจะเห็นผล รวมถึงยังมีสิ่งที่ไม่ควรกินคู่กับคอลลาเจนมาให้ได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้นด้วย


อ้างอิง