หากจะพูดถึงอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมกันมาก ๆ ในขณะนี้ ก็จะต้องมีคอลลาเจนด้วยอย่างแน่นอน เพราะคอลลาเจนนับว่าเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่ผู้คนชื่นชอบที่จะนำมาใช้ในการดูแลตัวเองกันมาก ๆ ด้วยคุณสมบัติและประโยชน์หลายอย่างจึงทำให้สามารถครองใจผู้คนได้ไม่ยาก ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนที่วางขายกันในขณะนี้ก็มีอยู่หลากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์มีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี อีกทั้งวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ไม่เท่ากันด้วย ก่อนเลือกซื้อจึงจำเป็นต้องดูในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งหากหากพลาดซื้อคอลลาเจนมาแล้วหมดอายุ แล้ว คอลลาเจนหมดอายุ กินได้ไหม ในบทความนี้จะมาช่วยอธิบายให้เข้าใจกัน


คอลลาเจนหมดอายุ กินได้ไหม ? คำถามที่หลายคนสงสัย

คอลลาเจนหมดอายุ กินได้ไหม ? คำถามที่หลายคนสงสัย

อาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบของเม็ด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมประเภทใดก็ตาม รวมถึงคอลลาเจนด้วย เป็นสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจกันมาก ๆ เนื่องจากว่าผู้คนหันมาให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น การกินคอลลาเจนก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ผู้คนเลือกใช้กัน แต่นอกจากจะกินคอลลาเจนแล้ว บางคนก็กินอาหารเสริมตัวอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันด้วย จนหากว่ากินอาหารเสริมหลายอย่างมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ลืมกินบางอย่างแล้วปล่อยไว้อย่างนั้นจนหมดอายุได้ หลังจากนั้นจึงมีคำถามตามมาว่าสามารถกินได้อีกไหม สำหรับคอลลาเจนเองก็เช่นกันที่จะมีคำถามที่ว่า คอลลาเจนหมดอายุ กินได้ไหมด้วย

คำถามที่ว่า หากคอลลาเจนหมดอายุแล้ว ยังสามารถกินได้ไหม ? ก็ต้องตอบเลยว่ายังสามารถกินได้ และไม่ค่อยแนะนำให้กินเลย เนื่องจากว่าข้อเสียที่สำคัญของอาหารเสริมที่หมดอายุไปแล้ว ก็คือ เรื่องของประสิทธิภาพของอาหารเสริมที่จะลดลง โดยวันหมดอายุที่ได้มีการระบุเอาไว้ในผลิตภัณฑ์นั้น ก็เป็นการระบุวันสุดท้ายที่ประสิทธิภาพสูงสุดของอาหารเสริมกล่องนั้นยังมีอยู่ แต่หากว่าเลยวันนั้นไปแล้วประสิทธิภาพของอาหารเสริมก็จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม การกินคอลลาเจนนั้นก็เพื่อใช้สำหรับการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ หากว่ากินคอลลาเจนที่หมดอายุแล้ว แทนที่จะช่วยดูแลสุขภาพก็จะกลับกันเป็นไม่ได้ช่วยดูแลเรื่องอะไรได้เลยแทน 

นอกจากที่อาหารเสริมคอลลาเจนที่หมดอายุแล้วจะมีประสิทธิภาพลดลง ในเรื่องของผลข้างเคียงเองก็เป็นสิ่งที่ควรทราบด้วย โดยอาหารเสริมเมื่อหมดอายุแล้วจะไม่เหมือนกับอาหารทั่ว ๆ ไปที่จะเน่าเสีย และไม่สามารถกินได้แล้ว แต่อาหารเสริมที่หมดอายุยังสามารถกินได้อย่างปลอดภัย เพียงประสิทธิภาพของตัวอาหารเสริมจะลดลงไปแล้วเท่านั้นเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่มีรายงานถึงผู้ที่ป่วย หรือเสียชีวิตจากการกินอาหารเสริมที่หมดอายุเลย จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากเผลอกินคอลลาเจนที่หมดอายุเข้าไปก็จะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย


จะรู้ได้ไงว่าคอลลาเจนหมดอายุแล้ว ดูจากอะไรได้บ้าง

จะรู้ได้ไงว่าคอลลาเจนหมดอายุแล้ว ดูจากอะไรได้บ้าง

จากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ก็คงจะช่วยทำให้ทราบได้แล้วว่า หากคอลลาเจนหมดอายุแล้วจะสามารถกินได้อีกหรือไม่ แล้วจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าคอลลาเจนหมดอายุ คอลลาเจนหมดอายุดูยังไงบ้าง ในส่วนนี้จะมาช่วยบอกกัน สำหรับคอลลาเจนที่ซื้อมากินกันนั้นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็จะต้องมีการกำหนดวันหมดอายุไว้ทั้งนั้น โดยทั่วไปแล้วอายุของอาหารเสริมที่ยังสามารถกินได้ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นประสิทธิภาพของอาหารเสริมก็จะค่อย ๆ เสื่อมถอยลงไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถกินได้ในที่สุด

ซึ่งวิธีการสังเกตง่าย ๆ ว่ายังสามารถกินคอลลาเจนได้หรือไม่ ก็ให้ดูว่าคอลลาเจนที่ซื้อมามีวันที่ผลิตมาครบ 1 ปีแล้วหรือยัง หรือว่าสังเกตดูแล้วว่าคอลลาเจนมีสี กลิ่น หรือมีความไม่เหมือนเดิม ก็แนะนำว่าให้ทิ้ง และไม่ควรนำมากินอีก


รวมวิธีเก็บรักษาคอลลาเจน ให้อยู่ได้นาน ๆ 

รวมวิธีเก็บรักษาคอลลาเจน ให้อยู่ได้นาน ๆ 

การกินคอลลาเจนหมดอายุนั้น แม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกายขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอยู่ดีที่จะไปกินคอลลาเจนหมดอายุ เพราะเมื่อกินแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้เห็นอะไร เนื่องจากว่าประสิทธิภาพของคอลลาเจนลดลงไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้หากไม่อยากกินคอลลาเจน หมดอายุก็ต้องรู้จักวิธีการเก็บรักษาด้วย เพื่อให้มีคอลลาเจนเอาไว้กินนาน ๆ และประสิทธิภาพของคอลลาเจนไม่เสียไป ซึ่งวิธีการเก็บรักษาสามารถทำได้ดังนี้

1. การเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ

โดยการเก็บคอลลาเจนที่ดีที่สุด ก็คือ การเก็บเอาไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ เนื่องจากว่าคอลลาเจนนั้นจะสามารถคงคุณประโยชน์ และคงประสิทธิภาพเอาไว้ได้ดีมากที่สุด ดังนั้นจึงจำเป็นมาก ๆ ที่ในการเก็บจะต้องไม่ให้คอลลาเจนโดนแดด หรือความชื้น

2. ห้ามให้คอลลาเจนโดนแสงแดดหรือความร้อน

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการเก็บคอลลาเจนจะต้องไม่ทำให้โดนแสงแดด เนื่องจากว่าแสงแดดเป็นสิ่งที่ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพของคอลลาเจนลดลงไปได้ และเมื่อนำมากินแล้วก็จะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีตามที่ควรจะเป็นนั่นเอง

3. ห้ามเก็บคอลลาเจนแช่ไว้ในตู้เย็น

เพราะการเก็บคอลลาเจนควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น เนื่องจากว่าการเก็บในตู้เย็นจะส่งผลทำให้คอลลาเจนโดนความชื้น นอกจากที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของคอลลาเจนแล้ว ก็ยังอาจจะทำให้มีแบคทีเรียปนเปื้อนมาอยู่ในคอลลาเจนได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อการนำมากินแน่นอน

4. เก็บใส่กระปุกพร้อมซองกันชื้น

อีกหนึ่งวิธีการเก็บคอลลาเจนที่ดี โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อแกะกล่องคอลลาเจนแล้วผู้คนก็จะมักจะเอาซองกันชื้นที่อยู่ในกล่องทิ้งไป หรือบางทีอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าทำซองคอลลาเจนขาดไป เมื่อเป็นเช่นนี้การเก็บคอลลาเจนให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยได้ ก็แนะนำว่าให้นำไปใส่ไว้ในกระปุกพร้อมกับซองกันชื้นดีกว่า เพื่อเป็นการไม่ให้คอลลาเจนต้องโดนแดด หรือว่าโดนความชื้นได้

5. ทิ้งคอลลาเจนทันที เมื่อรู้ว่าหมดอายุแล้ว

การกินคอลลาเจนที่หมดอายุแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ทำอันตรายต่อร่างกายก็จริง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย หากพบว่าคอลลาเจนที่เก็บไว้หมดอายุแล้ว ก็ไม่ควรลังเลและตัดสินใจทิ้งไปเลยดีที่สุด


อยากกินคอลลาเจนที่ดี ควรเลือกอย่างไร

อยากกินคอลลาเจนที่ดี ควรเลือกอย่างไร

ก่อนหน้านี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้นแล้วว่า คอลลาเจนหมดอายุแล้วกินได้ไหม หรือคอลลาเจนที่หมดอายุแล้วต้องสังเกตจากอะไรบ้างถึงจะรู้ ในส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่อยากให้คนกินคอลลาเจนได้รู้กันด้วย นั่นก็คือ เรื่องของการเลือกกินคอลลาเจนให้เหมาะสม โดยคอลลาเจนที่มีขายปัจจุบันนี้มีอยู่เยอะมาก ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดความงุนงงได้ว่าควรเลือกกินอย่างไรดี ซึ่งวิธีการเลือกซื้อก็ไม่ยากเลย สามารถทำได้ดังวิธีการดังต่อไปนี้

1. ดูแหล่งที่มาก่อนซื้อ

เนื่องจากว่า คอลลาเจนมักจะสกัดมาจากสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมู, วัว, ปลาทะเล หรือว่าไก่ โดยเฉพาะปลาทะเล และสัตว์ทะเล เป็นสิ่งที่จะนำมาใช้สกัดเป็นคอลลาเจนกันมากที่สุดเลย นั่นก็เพราะว่าเมื่อสกัดแล้วก็จะได้คอลลาเจนที่บริสุทธิ์ และสามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ดีมากกว่าแหล่งอื่น ๆ ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อก็อย่าลืมดูแหล่งที่มาของการสกัดคอลลาเจนด้วย แต่ทั้งนี้หากว่าเป็นคนที่แพ้อาหารทะเล ควรหลีกเลี่ยงการกินคอลลาเจนที่สกัดมาจากปลาทะเลไปเลย เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้

2. เลือกจากขนาดโมเลกุลของคอลลาเจน

โดยปกติแล้วคอลลาเจนมักจะอยู่ในรูปของโปรตีนสายยาว ที่จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ยากมากขึ้น ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาให้คอลลาเจนมีขนาดที่สั้นลง เพื่อให้พร้อมต่อการดูดซึมของลำไส้ได้ทันที ซึ่งหากว่าต้องการที่จะให้คอลลาเจนสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้ไว ก็แนะนำว่าให้เลือกซื้อจากการดูขนาดโมเลกุลของคอลลาเจน หรือดูง่าย ๆ ว่าถ้าเป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ หรือคอลลาเจนเปปไทด์ก็สามารถซื้อมากินได้เลย

3. คอลลาเจนแบบผงดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด

นอกจากที่จะต้องดูโมเลกุลของคอลลาเจนแล้ว รูปแบบของอาหารเสริมคอลลาเจนที่จะกินเองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยควรจะเลือกเป็นคอลลาเจนแบบผงมากกว่าคอลลาเจนที่เป็นแบบเม็ด เนื่องจากว่าคอลลาเจนแบบผงเมื่อกินเข้าไปแล้ว ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ง่ายและดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้ทันที ในขณะที่คอลลาเจนแบบเม็ดเมื่อกินเข้าไปแล้วก็ต้องรอให้ละลายอีกเป็นเวลา 20-30 นาทีเลย

4. เลือกคอลลาเจนแบบผงที่ละลายในน้ำเย็น และน้ำอุณหภูมิได้

อย่างที่บอกว่าควรเลือกกินคอลลาเจนแบบผงมากกว่าแบบเม็ด แต่คอลลาเจนแบบผงที่ซื้อก็ควรจะเป็นแบบที่สามารถละลายในน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้องได้จะดีกว่า เนื่องจากว่าคอลลาเจนบางชนิดที่ต้องการจะให้ดื่มง่ายก็ได้มีการผสมแป้ง หรือว่าแต่งกลิ่นเพิ่มเติม จึงทำให้ละลายในน้ำได้ยาก ซึ่งหากว่าซื้อมาแล้วต้องคนนานกว่าจะละลาย หรือว่ามีตะกอนผงคอลลาเจนนอนก้น ก็แสดงว่าคอลลาเจนนั้นผสมแป้งเยอะ ให้เปลี่ยนไปกินคอลลาเจนอันอื่นที่ละลายน้ำได้ง่ายดีกว่า

5. เลือกคอลลาเจนที่มีผลการวิจัยรับรอง

แน่นอนว่าการซื้อคอลลาเจนมากิน นอกจากที่จะคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมแล้ว ก็ต้องคาดหวังด้วยว่ากินแล้วจะต้องปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายใด ๆ กับผู้กิน ดังนั้น ก่อนที่จะซื้อคอลลาเจนมากิน ก็แนะนำว่าให้เลือกซื้อกับแบรนด์ที่มีการวิจัยคอลลาเจนมาเป็นอย่างดี และผ่านการรับรองมาแล้วว่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ซื้อกินแล้วได้รับประโยชน์ที่ดีจากคอลลาเจน และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างตามมา

6. ตรวจดูวัน เดือน ปี

การตรวจดูวันที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่พลาดไม่ได้เลย เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า อาหารเสริมทุกอย่างรวมถึงคอลลาเจนก็มีวันหมดอายุด้วยกันทั้งนั้น หากหมดอายุแล้วก็ไม่ควรซื้อมากินอีก ดังนั้นก่อนการซื้อก็อย่าลืมเช็กดูในเรื่องนี้ให้ดี ๆ ด้วย

จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้นแล้วว่า วิธีกินคอลลาเจน ควรทำอย่างไร คอลลาเจนที่หมดอายุแล้วสามารถนำมากินอีกได้หรือไม่ แล้วหากกินเข้าไปแล้วจะส่งผลอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ รวมถึงยังได้ทราบวิธีของการเช็ก และการเก็บรักษาคอลลาเจนไม่ให้หมดอายุง่าย ๆ ด้วย 


อ้างอิง