ชนิดของอาหารเสริมลดน้ำหนัก (สารเคมี vs สมุนไพร)

ยาลดความอ้วน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. ยาลดความอ้วนจากสารเคมี

เป็นยาลดความอ้วนที่พบได้ค่อนข้างมากในปัจจุบัน หาซื้อได้โดยตรงทั้งจากคลินิกและสถานเสริมความงามทั่วไป บางผลิตภัณฑ์อาจมีการใส่สารสังเคราะห์หรือสารเคมีร่วมด้วย เช่น

  •  เฟนเทอร์มีน (Phentermine) : ช่วยควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่ในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  •  แอมเฟตามีน (Amphetamine) : ทำให้ไม่อยากอาหารแม้แต่น้ำ จนกลายเป็นคนขาดสารอาหารไปในที่สุด หาได้รับมาก ๆ อาจทำให้มีอาการทางจิตประสาท โดยเฉพาะกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า
  •  ยาไทรอยด์ฮอร์โมน : คอยเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
    หากได้รับในปริมาณที่มากไป ก็จะเข้าไปทำลายโปรตีนของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการใจสั่นได้
  •  ยาขับปัสสาวะและยาระบาย : เพื่อขับน้ำในร่างกายเพื่อให้น้ำหนักลด แต่ขณะเดียวกันก็จะทำให้แร่ธาตุในร่างกายลดลงไปด้วย ซึ่งเมื่อรับเข้าไปนานๆ ยาตัวนี้จะส่งผลเสียต่อหัวใจและสมองให้ทำงานผิดปกติ จนอาจจะถึงขั้นหัวใจวายได้

ข้อแนะนำ : ประเภทยาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดจัดเป็นยาอันตราย เมื่อนำมาใช้เป็นยาลดน้ำหนัก ไม่ควรใช้เกิน 3-6 เดือน การรับสารเป็นระยะเวลานานสามารถส่งผลต่อผู้ใช้ได้ เช่น เห็นภาพหลอน หงุดหงิด และติดยาไปในที่สุด สำหรับสารบางประเภทหากมีความจำเป็นต้องใช้ ควรอยู่ภายใต้การดูของแพทย์เท่านั้น

ชนิดของอาหารเสริมลดน้ำหนัก

2. ยาลดความอ้วนจากสมุนไพร

การใช้สมุนไพรไทยลดความอ้วน กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักแต่กลัวสารเคมี ซึ่งสมุนไพรของไทยนั้นมีหลายสายพันธ์ุที่ขึ้นชื่อเรื่อง การเร่งระบบเผาผลาญไขมัน ลดไขมันส่วนเกินได้ดี เช่น

  •  ส้มแขก : มีกรดไฮดรอกซีซิตริก ช่วยลดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย
  •  ชาเขียว : เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันหลังออกกำลังกายมากกว่าปกติ 15%
  •  ผงพรุน : เป็นแหล่งโปแตสเซียมชั้นเลิศ และมีกากใยธรรมชาติหลากชนิด ช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  •  พริกไทยดำ : มีส่วนประกอบ Piperine ช่วยต่อต้านการสะสมไขมัน

ข้อแนะนำ : การใช้ยาลดน้ำหนักจากสมุนไพรที่ดี ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์สมุนไพรร่วมด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บอาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อไหนดีได้ที่นี่ ยาลดความอ้วนยี่ห้อไหนดี 10 อันดับ ได้หุ่นใหม่ แบบไม่ทรมาน

สาระน่ารู้เกี่ยวกับอาหารเสริมลดน้ำหนัก

สาเหตุของโรคอ้วน

อาหารเสริมลดน้ำหนัก vs ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ ต่างกันอย่างไร

อันตรายจากการใช้ยาลดความอ้วน

ใครบ้างที่ไม่ควรได้รับยาลดความอ้วน?